วันนี้ (29 พ.ย.2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอต่ออายุมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บ.ตลอดสาย ใน 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต)
อ่านข่าว : รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทำได้หรือขายฝัน?
รวมถึง โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ ออกไปอีก 1 ปี โดยจะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย.2568 โดยทั้งหมดจะใช้งบประมาณ 400 กว่าล้านบาท ส่วนสายอื่น ๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ
โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต)
โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต)
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ในการประชุมสภาอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท นายสุริยะ ได้ชี้แจงกรณีโครงการรถไฟฟ้า 20 บ.ตลอดสายว่า เป็นนโยบายด้านการพัฒนาการคมนาคม และโลจิสติกส์ มีเป้าหมาย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคให้ประชาชนทุกระดับ
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่
ส่วนที่มีการอภิปรายนโยบายดังกล่าว ทำให้ขาดทุนปีละหลายพันล้านบาท นายสุริยะ ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้รถไฟฟ้าทั้ง 2 สายขาดทุนวันละ 6.9 ล้านบาท แต่เมื่อมีนโยบาย 20 บ.ตลอดสาย ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ช่วงแรกรายได้อาจจะลดลงไปบ้าง แต่ไม่ถึง 3 เดือนรายได้ของทั้ง 2 สาย ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้า 20 บ.ตลอดสาย ซึ่งสามารถเดินทางข้ามสาย ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง เป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล ในด้านคมนาคม ซึ่งเริ่มในยุครัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
อ่านข่าว : "สุริยะ" ยืนยันรถไฟฟ้า 20 บาทเสนอ ครม.สัญจร 29 พ.ย.นี้
"สุริยะ" เดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย ยันปี 68 ได้ใช้แน่นอน
"สุริยะ" แจงสภา รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำกำไรไม่ขาดทุน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: