ยูโรโซนบรรลุข้อตกลงกับกรีซหลังเจรจานาน 17 ชั่วโมง

นายโดนัลด์ ทุสค์ ประธานสหภาพยุโรป ประกาศว่าที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มยูโรโซนมีมติเป็นเอกฉันท์บรรลุข้อตกลงให้กลไกเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) ช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์การเงินกรีซ เพื่อแลกกับการที่กรีซจะต้องดำเนินการปฏิรูปอย่างจริงจัง

 

การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวนี้ทำให้การเจรจาเรื่องเงื่อนไขเงินกู้ที่ยืดเยื้อมานานถึง 6 เดือนได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของแผนปฏิรูปรวมถึงมาตรการรัดเข็มขัดที่กรีซจะต้องแบกรับ แต่คาดว่าจะเป็นมาตรการที่เข้มข้นยิ่งกว่าข้อเสนอเดิมที่ชาวกรีกลงประชามติไม่ยอมรับไปก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนหน้าที่การเจรจาจะได้ข้อยุติ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกรีซ ระบุว่า สิ่งที่รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนเสนอมาเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก

 

ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม จะประกอบไปด้วยการปฏิรูปแรงงานและการจ่ายเงินบำนาญ การเพิ่มการจัดเก็บภาษีและการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

 

ขณะที่นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป ระบุว่า เงื่อนไขที่ตกลงกันยังรวมไปถึงการรัฐบาลกรีซจะต้องโอนสินทรัพย์ที่มีมูลค่ารวม 50,000 ล้านยูโรไปยังกองทุนอิสระในลักเซมเบิร์ก เพื่อรอการแปรรูป โดยเงินจำนวน 25,000 ล้านยูโร จะถูกใช้ในการเพิ่มทุนให้กับธนาคารต่างๆ ในกรีซ

 

ด้านนางแองเกล่า แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แถลงภายหลังการเจรจาว่า กรีซ และพันธมิตรในยุโรปยังต้องเผชิญกับถนนแห่งความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า ซึ่งถนนสายนี้จะมีระยะทางยาวไกล

 

โดยหลังจากนี้ รัฐสภากรีซจะต้องผ่านกฎหมายรับรองการปฏิรููปตามข้อตกลงในวันที่ 15 ก.ค.นี้ เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาหาข้อสรุปเกี่ยวกับเงินกู้งวดที่ 3 จำนวน 86,000 ล้านยูโร ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์หนี้สินของกรีซ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในยูโรโซนจะต้องนำเรื่องผ่านความเห็นชอบในรัฐสภาของตนเองเช่นกัน

 

ส่วนนายอเล็กซิส ซีพราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวว่า กรีซได้ต่อสู้ในการรบที่ยากลำบาก และแลกมาด้วยชัยชนะของการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อป้องกันการล้มครืนของระบบธนาคารในกรีซและวิกฤตการณ์ด้านอื่นๆ ซึ่งหวังว่าชาวกรีกจะเข้าใจ และสนับสนุนข้อตกลงนี้