วันนี้ (4 พ.ค.2568) คณะพนักงานสอบสวนคดีตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม เปิดเผยความคืบหน้าการ ติดตามคดีระบุว่า ขณะมีการสอบปากคำพยาน และผู้เกี่ยวข้องคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเก็บชิ้นส่วนตัวอย่างเหล็กและปูน รวมถึงพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อส่งตรวจพิสูจน์อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะมาตรฐานการของโครงสร้าง ซึ่งขณะนี้ผลการตรวจบางส่วนได้ออกมาแล้ว แต่ภาพรวมยังไม่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ว่าการก่อสร้างดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ โดยจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ด้านอื่นๆ และข้อมูลจากนักวิชาการเข้ามาประกอบกัน
เช่นเดียวกับลายเซ็นของวิศวกร ที่มีการส่งตรวจไปก่อนหน้านี้ ที่ขณะนี้ก็ยังคงต้องรอผล ยืนยันว่า ลายเซ็นดังกล่าว มีการปลอมแปลงหรือไม่ เบื้องต้นในสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการวางแนวทางดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง
ด้าน รศ.กิจพัฒน์ ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลภายหลังโซเชียลมีเดีย เผยแพร่ความเห็นนักวิชาการที่ระบุว่า การเก็บตัวอย่างคอนกรีต ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาจเป็นไปอย่างไม่ครอบคลุม เนื่องจากมีการสุ่มเก็บตัวอย่างแบบกระจุกตัว ว่า
ในฐานะที่เป็นผู้เสนอแนะ ให้ชุดเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดำเนินการเก็บตัวอย่าง ก่อนหน้านี้ ผมได้ให้คำแนะนำว่า การเก็บตัวอย่างคอนกรีตจะต้องกระจายเก็บตามพื้นที่ต่างๆ ให้ได้มากที่สุด แต่เมื่อเข้าพื้นที่จริงกลับพบว่า สภาพคอนกรีตบริเวณเสาหลักและผนังลิฟต์มีความเปราะบาง บางจุดเจ้าหน้าที่ไม่สามารถ ทรงตัวเพื่อทำการเก็บตัวอย่างได้เนื่องจากสภาพพื้นที่ไม่อำนวย
ซึ่งการจะนำตัวอย่างไปใช้ตรวจพิสูจน์สภาพชิ้นส่วนที่ถูกนำออกไปจะต้องมีความสมบูรณ์ และที่ผ่านมาพบว่าเมื่อมีการนำไปเจาะตรวจสอบแล้วข้างในของชิ้นส่วนตัวอย่างมีสภาพแตกร้าวทำให้ไม่สามารถใช้ได้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างตรงบริเวณที่พบว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดทำให้ภาพที่เผยแพร่ออกมามีลักษณะกระจุกตัว และสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว

DSI เตรียมนำคำให้การ 38 วิศวกรเข้าสู่สำนวนคดีพิเศษ
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 เปิดเผยว่า การสอบสวนปากคำพยานวิศวกรที่ผ่านมา ดีเอสไอได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ทำให้ทราบจำนวนวิศวกร ที่ถูกปลอมลายเซ็นในเอกสารควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง.
ขณะเดียวกันทำให้ทราบถึงจำนวนวิศวกรที่ได้เซ็นควบคุมงานจริง โดยกระบวนการขณะนี้ เหลือเพียงการนำส่งลายเซ็นของพยานวิศวกรที่เข้าให้ปากคำทั้งหมดกับดีเอสไอ ไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจพิสูจน์และใช้ประกอบกับสำนวนคดี ที่ตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้จากพยานวิศวกรคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
สำหรับ กรณีที่พยานวิศวกรถูกปลอมลายเซ็น และแอบอ้างชื่อในเอกสารควบคุมงานก่อสร้าง หากจะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่นำเอาลายเซ็นและแอบอ้างชื่อวิศวกรไปใช้ ตำรวจจะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการทางคดีอาญา ในความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ส่วนดีเอสไออาจจะพิจารณาในเรื่องความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542
ขณะที่วิศวกรที่ยังไม่เข้ามาพบดีเอสไอ เพื่อชี้แจงเรื่องลายเซ็น ก็จะมีการออกหมายเรียกพยานซ้ำอีกครั้ง ส่วนคำให้การของพยานวิศวกรทั้ง 38 คน ดีเอสไอจะทำการคัดกรองถ้อยคำให้การของพยานวิศวกรทั้งหมดนี้ เข้าสู่สำนวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด

ทีมวิศวกรโครงสร้างแนะเก็บชิ้นส่วนคอนกรีตให้ครอบคลุมทุกจุด
ศ.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย พร้อมนายชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าติดตามการเก็บชิ้นส่วนคอนกรีตและเหล็กภายในสถานที่เกิดเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม
ศ.อมร เปิดเผยว่าการลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อเข้าไปสังเกตการณ์การเก็บตัวอย่างลูกปูนบริเวณปล่องลิฟต์และเสาด้านหน้าอาคาร สตง. หลังปรากฏภาพข่าวพบการเก็บตัวอย่างไม่ครอบคลุมมีลักษณะกระจุกตัว ซึ่งในตามหลักวิศวกรรมการเก็บตัวอย่างลูกปูนจะต้องครอบคลุมและกระจายตัว เก็บตามตำแหน่งต่างๆ อีกทั้งยังต้องมีการใช้หลักตามฟิสิกส์ เช่น ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย
เบื้องต้น ยอมรับว่าการเก็บลูกปูน จะต้องใช้ชิ้นส่วนโครงสร้างที่มีความสมบูรณ์ แต่สภาพของโครงสร้างที่เหลืออยู่อาจแตกสลายไปบ้าง ซึ่งในทางหลักวิศวกรรมแม้จะไม่สามารถตรวจพิสูจน์ด้วยวิธีการเก็บชิ้นส่วนโครงสร้างที่สมบูรณ์ได้ ก็ยังมีวิธีการอื่น เช่น การเก็บผงปูนไปวิเคราะห์ส่วนผสมทางเคมี โดยไปดูปฏิกิริยาทางเคมี ระหว่างน้ำและปูนซิเมนต์ ซึ่งจะสามารถบ่งบอกรายละเอียด ว่าหากไปเปรียบเทียบกับชิ้นปูนที่มีความสมบูรณ์ จะพบรายละเอียดคุณสมบัติทางเคมี ว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ยืนยันขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลผลการตรวจสอบคุณภาพปูน ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

ซึ่งสาเหตุที่เดินทางมาก็เพื่อให้คำแนะนำแนวทางการเก็บตัวอย่างรวมถึงวิธีการทดสอบ โดยยอมรับว่าเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าจะต้องควบคู่ไปกับการค้นหาร่างผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใต้ซากอาคารแต่ส่วนนี้ก็อยากจะให้มีการชั่งน้ำหนัก เพราะส่วนตัวอยากให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรฐานของปูนที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้มีข้อโต้แย้งทางวิศวกรรม ซึ่งการเก็บชิ้นส่วนตัวอย่างที่ครอบคลุมหมายถึง การเก็บตามตำแหน่งที่มีความสำคัญ ตามแผง ด้านหน้า ด้านหลัง หรือ ตามระดับความสูง เพราะการเทคอนกรีตอาจจะมีรอยต่อ และในรอยต่ออาจจะมีน้ำเข้าไปอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งก็อาจจะมีผลต่อการรับน้ำหนัก จึงต้องเก็บชิ้นส่วนในตำแหน่งที่ไม่ใช่รอยต่อและมีรอยต่อ ตลอดความยาวของแผงและความสูง และส่วนตัวเชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อเสนอนี้ก็อาจจะมีการไปปรับปรุงแนวทางการเก็บชิ้นส่วนให้ดีขึ้น
ด้านนายชูเลิศ ระบุว่า หลังเห็นภาพข่าวการเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนคอนกรีตก็ทำให้รู้สึกเป็นห่วงแนวทางการทำงาน เพราะ ส่วนตัวมองว่าการจัดเก็บชิ้นส่วนตัวอย่างควรกระจายให้ครบทุกจุดเพื่อให้ได้หลักฐานที่ครบถ้วน ไม่ใช่เพียงการเก็บชิ้นส่วนที่คงสภาพสมบูรณ์หรือมีสภาพดีเท่านั้น โดยการเก็บชิ้นส่วนที่มีสภาพไม่ดีมีความจำเป็น เนื่องจากอาจจะเป็นตัวตั้งต้นหรือเป็นสาเหตุสำคัญ ในการค้นหาที่มาของการพังถล่มครั้งนี้
ซึ่งการเก็บชิ้นส่วนที่ไม่สมบูรณ์ไปตรวจสอบว่ามีสภาพ เป็นอย่างไรมีคุณสมบัติทางเคมีครบถ้วน ตรงตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นหรือไม่ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับสภาพตัวอย่างที่ดี ซึ่งส่วนนี้ก็ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการนำไปพิจารณาหาสาเหตุ เบื้องต้น มองว่าควรจะมีตัวอย่างที่นำไปตรวจสอบที่มากเพียงพอ เพราะหากไม่เร่งดำเนินการในเวลานี้ภายหลังก็อาจจะไม่สามารถเก็บได้อีกเลย
อ่านข่าว :
กทม.ปรับยอดผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม 109 คน เร่งค้นหาผู้สูญหาย 14 คน