ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รู้ทัน "มือเท้าปาก" ภัยใกล้ตัวลูกในหน้าฝน ที่พ่อแม่ต้องรู้

ไลฟ์สไตล์
16:15
100
รู้ทัน "มือเท้าปาก" ภัยใกล้ตัวลูกในหน้าฝน ที่พ่อแม่ต้องรู้
อ่านให้ฟัง
06:52อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ช่วงหน้าฝนนี้ โรคมือเท้าปากกำลังระบาดในเด็กเล็ก โดยเฉพาะน้อง ๆ วัยเรียนอนุบาล แต่ไม่ต้องตกใจ! ไทยพีบีเอสออนไลน์มีวิธีง่าย ๆ ในการป้องกันและดูแลลูกให้หายป่วยได้อย่างปลอดภัย มารู้จักโรคนี้ให้ดีขึ้นกัน

น้อง ๆ และคุณพ่อคุณแม่คงเคยได้ยินชื่อ "โรคมือเท้าปาก" กันบ่อย ๆ ใช่ไหม ? โรคนี้เป็นโรคที่เจอได้บ่อยในเด็กเล็ก ๆ โดยเฉพาะน้อง ๆ อายุไม่เกิน 5 ขวบ ส่วนใหญ่แล้วโรคนี้ไม่ร้ายแรงมากนัก และมักจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่อาจทำให้น้อง ๆ รู้สึกไม่สบายตัวได้

อาการ "โรคมือเท้าปาก" เป็นยังไงบ้าง ?

เริ่มต้น น้อง ๆ อาจจะมีไข้ จากนั้น 1-2 วัน ก็จะเริ่มมีตุ่มใส ๆ หรือผื่นแดงๆ ขึ้นมา ที่พบบ่อยที่สุดคือ ในปากจะมีแผลคล้ายร้อนใน แผลพวกนี้อาจจะเจ็บมาก ๆ ทำให้น้อง ๆ ไม่อยากกินอะไรเลย นอกจากในปากแล้ว ก็จะมีตุ่มขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และบางทีก็พบที่ก้นและขาได้ด้วย ตุ่มที่มือและเท้ามักจะไม่คันหรือเจ็บเท่าแผลในปาก น้อง ๆ บางคนอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดท้อง หรือท้องเสีย

สาเหตุของโรคมือเท้าปากเกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม "เอนเทอโรไวรัส" (Enteroviruses) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์มาก ๆ สายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดคือ "คอกซากีไวรัส A16" (Coxsackievirus A16) ถ้าติดเชื้อนี้ อาการส่วนใหญ่มักจะไม่รุนแรง และหายเป็นปกติได้เอง

แต่มีอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ "เอนเทอโรไวรัส 71" หรือ EV71 ถ้าติดเชื้อโรคอาจจะรุนแรงกว่าปกติได้ และอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น สมองอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวมน้ำ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย น้อง ๆ ที่ติดเชื้อ EV71 มักมีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส และไข้นานกว่า 3 วัน

โรคมือเท้าปากติดต่ออย่างไร-ทำไมระบาดหน้าฝน ? 

โรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก ๆ เชื้อไวรัสจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ น้ำจากตุ่มพอง และอุจจาระของผู้ป่วย การสัมผัสโดยตรง เช่น การจับมือกัน การไอหรือจามรดกัน ก็ทำให้ติดเชื้อได้ นอกจากนี้ การสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น ของเล่น โต๊ะ เก้าอี้ ช้อน แก้วน้ำ ที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด ก็เป็นสาเหตุให้ติดเชื้อได้เช่นกัน

น้องๆ วัยอนุบาลหรือเด็กเล็กมักจะนำมือเข้าปากบ่อย ๆ และอยู่รวมกันเยอะ ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่โรคนี้มักจะระบาดในโรงเรียนอนุบาล ศูนย์เด็กเล็ก และสถานรับเลี้ยงเด็ก ส่วนสาเหตุที่มักระบาดหนักช่วงหน้าฝนนั้น หนึ่งในปัจจัยคือสภาพอากาศที่ร้อนชื้นที่ช่วยให้เชื้อแพร่กระจายได้ดีขึ้น

แล้วถ้าน้อง ๆ เป็นโรคมือเท้าปาก ต้องดูแลยังไง ?

ถ้าลูกมีอาการของโรคมือเท้าปาก ไม่ต้องตกใจไป ส่วนใหญ่โรคจะหายได้เอง สิ่งสำคัญคือการดูแลตามอาการ

  • ให้ยาแก้ปวดลดไข้ เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน ตามคำแนะนำของคุณหมอหรือเภสัชกร 
  • ให้จิบน้ำเยอะ ๆ ป้องกันการขาดน้ำ เพราะแผลในปากอาจทำให้น้อง ๆ ไม่อยากดื่มน้ำ เช่น นมเย็น ๆ น้ำมะพร้าว หรือน้ำเกลือแร่ก็ช่วยได้
  • เลือกอาหารที่อ่อนนุ่ม กลืนง่าย และไม่ระคายเคือง เช่น โยเกิร์ต สมูทตี้ พุดดิ้ง ซุปข้าวต้ม ข้าวบด กล้วยบด ไข่คน หรือปลาเนื้อขาวนึ่ง
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้อาการแย่ลง เช่น อาหารรสจัด เปรี้ยวจัด เผ็ดจัด เค็มจัด ของทอด ของกรอบ ขนมกรุบกรอบ หรือน้ำอัดลม เพราะจะทำให้แผลในปากแสบและเจ็บมากขึ้น
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

เมื่อไหร่ที่ต้องรีบไปพบคุณหมอทันที ?

แม้ว่าอาการส่วนใหญ่ของโรคมือเท้าปากจะไม่อันตราย แต่ถ้าลูก ๆ มีอาการเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันที

  • ไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส ติดต่อกันนานกว่า 2 วัน
  • ซึมลง อ่อนเพลียมาก ไม่ยอมเล่น ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม
  • อาเจียนมาก หายใจหอบถี่ ดูเหนื่อย
  • มีอาการชัก กระตุก เดินเซ หรือแขนขาอ่อนแรง
  • ดื่มน้ำได้น้อย มีภาวะขาดน้ำ เช่น ปัสสาวะน้อย ปากแห้ง ไม่มีน้ำตาเมื่อร้องไห้

วิธีป้องกันโรคมือเท้าปากง่าย ๆ ที่ทุกคนทำได้

  • ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังจากเข้าห้องน้ำ หรือเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็ก และก่อนเตรียมอาหารหรือรับประทานอาหาร ใช้สบู่และน้ำสะอาดจะดีที่สุด เพราะเจลแอลกอฮอล์อาจฆ่าเชื้อไวรัสบางชนิดไม่ได้ผล
  • ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น ช้อน แก้วน้ำ หลอดดูด ผ้าเช็ดหน้า หรือของเล่น
  • ทำความสะอาดของเล่นและพื้นผิวต่าง ๆ โดยเฉพาะในโรงเรียนอนุบาล หรือศูนย์เด็กเล็ก ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม 
  • แยกเด็กป่วย ถ้าลูกมีอาการโรคมือเท้าปาก ควรให้หยุดเรียนหรือหยุดไปศูนย์เด็กเล็ก อย่างน้อย 10 วันหลังมีอาการ หรือจนกว่าตุ่มพองและแผลจะแห้งสนิทดี เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปให้เพื่อน ๆ
  • การแจ้งเตือนและการเฝ้าระวัง โรคมือเท้าปากเป็นโรคที่ต้องแจ้งหน่วยงานสาธารณสุข โรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็กควรแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหากพบเด็กป่วย 2 คนขึ้นไปในชั้นเรียนเดียวกัน

ปัจจุบัน มีวัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคมือเท้าปากที่เกิดจากเชื้อ EV71 แล้ว การฉีดวัคซีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี แต่ต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล : สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยChildren's Hospital of Philadelphia, The Kids Point

อ่านข่าวอื่น :

เมืองน่านตั้งรับ "น้ำน่าน" ล้นตลิ่ง ปิดประตูระบายน้ำ-ตั้งเครื่องสูบน้ำ

เสือโคร่งชราบึงฉวาก "ต้าร์สอง" ตายแล้ว หลังป่วยมะเร็งเต้านม