ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ทุเรียน" ราชาผลไม้ 9 เดือน โกยรายได้เข้าประเทศกว่า 2.2 หมื่นล้าน

เศรษฐกิจ
11:18
119
"ทุเรียน" ราชาผลไม้ 9 เดือน โกยรายได้เข้าประเทศกว่า 2.2 หมื่นล้าน
กรมทรัพย์สินฯ เผย ราคาผลไม้ 9 เดือนสร้างรายได้ทะลุ 22,594 ล้านบาท "หมอนทองเขาบรรทัด" สร้างรายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท ขณะที่ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา และทุเรียนระยองไม่น้อยหน้า สร้างรายได้รวม 11,547ล้านบาท ตอกย้ำ ตรา GI กุญแจสำคัญเสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย

วันนี้ ( 22 ต.ค.2568) นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ผลการส่งเสริมและคุ้มครองสินค้า GI ในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยคุณภาพและอัตลักษณ์อันโดดเด่นส่งผลให้สินค้า GI ไทยได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ สินค้า GI ไทยที่ทำรายได้สูงสุด 10 อันดับแรก ในช่วงม.ค. – ก.ย.2568 ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรและอาหาร สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 46,000 ล้านบาท 3 อันดับแรก คือ ทุเรียน GI อย่าง ทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด จ.ตราด ครองแชมป์สินค้า GI ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2568 ด้วยมูลค่าสูงถึง 11,047 ล้านบาท

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

โดย ลักษณะเด่นของทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด คือเปลือกสีเขียวปนน้ำตาล ปลายหนามแข็งแรงแหลมคม เนื้อมีสีเหลืองอ่อน รสชาติหวานมันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปลูกในบริเวณแนวเทือกเขาบรรทัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ ดินร่วนระบายน้ำดี และมีฝนตกมากเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ประกอบกับแรงลมทะเลที่เข้าปะทะกับพื้นที่ชายฝั่งไปจนถึงเทือกเขาบรรทัด ทำให้สภาพความชื้นในอากาศลดลงเร็วกว่าปกติ ทุเรียนเกิดอาการเครียดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จึงกระตุ้นให้ออกดอกเร็วและสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนพื้นที่อื่น

อันดับ 2 ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา มูลค่า 6,661 ล้านบาท มีลักษณะเด่นคือเนื้อทุเรียนแห้ง ไม่แฉะ เส้นใยน้อย รสชาติหวานมัน ปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 เมตรขึ้นไปในจังหวัดยะลา และอันดับ 3 ทุเรียนหมอนทองระยอง มูลค่า 4,886 ล้านบาท มีลักษณะเด่นคือเปลือกบาง พูชัดเจน เนื้อสีเหลืองนวล หนา แห้ง เหนียว เส้นใยน้อย รสชาติหวานมันกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมอ่อน โดยทุเรียน

อธิบดีกรมทรัพย์สินฯ กล่าวว่า ทุเรียนจาก 3 จังหวัด มีตลาดส่งออกประเทศจีน สะท้อนศักยภาพสินค้าเกษตรและความต้องการทุเรียนไทยคุณภาพสูงในตลาดโลก นอกจากทุเรียน GI ดังกล่าวแล้ว ยังมีสินค้า GI ไทยที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูงอีก 7 รายการ ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ มูลค่า 4,812 ล้านบาท มะพร้าวทับสะแก (ประจวบคีรีขันธ์) มูลค่า 3,776 ล้านบาท เหล้าแป้ (แพร่) มูลค่า 3,632 ล้านบาท มะขามหวานเพชรบูรณ์ มูลค่า 3,363 ล้านบาท หอมแดงศรีสะเกษ มูลค่า 2,882 ล้านบาท กุ้งก้ามกรามบางแพ (ราชบุรี) มูลค่า 2,570 ล้านบาท และทุเรียนบางนรา (นราธิวาส) มูลค่า 2,544 ล้านบาท

สินค้าGI สะท้อนคุณภาพสินค้าท้องถิ่นไทยที่ครองใจผู้บริโภค โดยเฉพาะ เหล้าแป้ หนึ่งในสินค้า GI น้องใหม่มาแรงที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเมื่อเดือนก.ค.2568 และสามารถทำรายได้ติด Top 10 ของปี 2568 (ในอันดับที่ 6) ได้อย่างรวดเร็ว

อธิบดีกรมทรัพย์สินฯ กล่าวอีกว่า ความสำเร็จของสินค้า GI ไทย มาจากการขับเคลื่อนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การคุ้มครองและรับรองคุณภาพ (GI Protection) ชื่อและตรา GI เป็นปัจจัยแรกที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในแหล่งผลิต และยอมรับในชื่อเสียงและคุณภาพของสินค้า โดยมีระบบควบคุมคุณภาพมาตรฐานสินค้าอย่างเข้มงวด และสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาของแหล่งผลิตได้

รวมทั้งควบคุมปริมาณการผลิตสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ราคาขายสินค้าหลังจากขึ้นทะเบียน GI โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 2-5 เท่า การเข้าถึงตลาด ผ่านการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นคุณภาพพรีเมียมให้สามารถขยายตลาดไปยังประเทศเป้าหมาย ซึ่งมีความต้องการสินค้าคุณภาพดีจากไทยและมีกำลังซื้อสูง อาทิ จีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น รวมถึงการจำหน่ายสินค้าในประเทศผ่านช่องทางที่หลากหลาย

ทั้งในท้องตลาด ห้างสรรพสินค้า และช่องทางออนไลน์ การต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม ผ่านการยกระดับสินค้า GI สู่เมนูอาหารระดับ Fine Dining การแปรรูปสินค้า GI เพื่อเพิ่มมูลค่าและตอบโจทย์ผู้บริโภคในตลาดยุคใหม่ การเชื่อมโยงแหล่งผลิตสินค้า GI กับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและนวัตวิถี การนำภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ท้องถิ่นมาสร้างแบรนด์และเรื่องราว (Storytelling) ที่มีคุณค่า รวมทั้งการพัฒนาภาพลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย ซึ่งช่วยกระตุ้นความน่าสนใจและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรพื้นถิ่นได้ เช่น ทุเรียนหมอนทองระยองที่กรมฯ มีส่วนร่วมในการออกแบบพัฒนาบรรจุภัณฑ์ โดยใช้แนวคิด Art of Durian สะท้อนความสนุกสนานระดับพรีเมียม ส่งผลให้สินค้า GI มีศักยภาพการแข่งขันสูง ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ของไทย

ทั้งนี้ กรมฯ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งใช้ GI เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าส่งเสริมสินค้า GI ในภูมิภาคต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักและขยายตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรา GI เป็นสัญลักษณ์ของ สินค้าดี มีคุณภาพ คู่แหล่งกำเนิด ของไทยผ่านสินค้าเหล่านี้ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างรายได้ระดับหมื่นล้านบาท แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่นให้มีความมั่นคง

อ่านข่าว:

 คัดค้านร่างพรบ.แรงงานฉบับใหม่ หอการค้าฯ ย้ำต้องรับฟังเสียงนายจ้าง

“สงครามการค้า” ยืดเยื้อ ซ้ำเติมเศรษฐกิจโลก กระทบ“ท่องเที่ยวไทย”

“บาทแข็ง” ฉุดรายได้ประเทศร่วง ส.อ.ท.ชี้ หวั่นเสียเปรียบตลาดโลก