วันนี้ (4 ส.ค.2568) BBC รายงาน เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เมื่อเรือบรรทุกผู้อพยพประมาณ 157 คน คาดว่าส่วนใหญ่เป็นชาวเอธิโอเปีย เกิดจมลงในน่านน้ำนอกชายฝั่ง จ.อับยัน ทางใต้ของเยเมน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย
นายอับดุซัตตอร์ เอโซเยฟ หัวหน้าองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ประจำเยเมน เปิดเผยกับสำนักข่าว BBC ว่า พบศพผู้เสียชีวิต 68 คน โดย 54 คนถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งในเขตข่านฟาร์ และอีก 14 คน ถูกนำไปยังโรงพยาบาลในเมืองซินจิบาร์ เมืองหลวงของจังหวัดอับยัน มีผู้รอดชีวิตเพียง 12 คน ส่วนอีก 74 คนสูญหายและคาดว่าอาจเสียชีวิต
เยเมนเป็นเส้นทางหลักสำหรับผู้อพยพจากภูมิภาคฮอร์นแห่งแอฟริกา ซึ่งประกอบด้วยโซมาเลีย จิบูตี เอธิโอเปีย และเอริเทรีย ที่มุ่งหน้าไปยังประเทศในอ่าวอาหรับเพื่อหางานทำ IOM รายงานว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีผู้อพยพหลายร้อยคนเสียชีวิตหรือสูญหายจากเหตุเรือล่มในเส้นทางนี้ ในปี 2567 มีผู้อพยพกว่า 60,000 คนเดินทางถึงเยเมน แม้จะเผชิญความเสี่ยงสูง โครงการ Missing Migrants ของ IOM บันทึกว่าในรอบทศวรรษที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 3,400 รายในเส้นทางนี้ โดย 1,400 รายจมน้ำตาย
นายเอโซเยฟระบุว่า เรือลำนี้ใช้เส้นทางอันตรายในพื้นที่ชายฝั่งกว้างขวาง ซึ่งมักถูกกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ใช้ประโยชน์ เขาย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างกลไกคุ้มครองผู้อพยพตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากพวกลักลอบค้ามนุษย์ พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศสมาชิกเพิ่มช่องทางถูกกฎหมายสำหรับการโยกย้ายถิ่นฐาน เพื่อให้ผู้คนไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกลักลอบที่หลอกลวงและพาไปสู่การเดินทางอันตราย
ทางการ จ.อับยัน ได้ระดมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยครั้งใหญ่ โดยพบศพกระจายไปทั่วบริเวณชายฝั่ง รายงานของ IOM ระบุว่า ขบวนการลักลอบค้ามนุษย์มีความประมาทมากขึ้น โดยจงใจส่งเรือออกในสภาพอากาศเลวร้ายเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจตราของเจ้าหน้าที่
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน มี.ค.2568 มีเรือ 2 ลำบรรทุกผู้อพยพกว่า 180 คนจมในเขตดูบับเนื่องจากคลื่นลมแรง รอดชีวิตเพียงลูกเรือ 2 คน
เยเมนยังคงเผชิญสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่าทศวรรษ โดยกลุ่มฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือตั้งแต่ปี 2557 หลังขับไล่รัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติออกจากกรุงซานา สถานการณ์นี้ทำให้การจัดการปัญหาผู้อพยพและการส่งความช่วยเหลือมีความท้าทายยิ่งขึ้น
อ่านข่าวอื่น :