รัฐมนตรี-พรรคเพื่อไทย และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมตัดสินใจ ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยคำร้องถอดถอน กรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุนเซน เป็นแผนรองรับสถานการณ์การเมือง
และแม้จะยังไม่ชัดเจนในแผนรองรับที่ว่านี้ แต่เริ่มมีข้อสังเกตผ่านนัยที่แอบแฝงอยู่ ซึ่งอาจทำให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หลุดพ้นจากศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่อาจหลุดพ้นจากข้อกล่าวหา ด้วยมีคำร้องเดียวกันในมือ ป.ป.ช.ด้วย
ไม่มีใครยืนยัน และยังไม่มีใครยอมรับ ว่านายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะประกาศ "ลาออก" ก่อนศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย-ชี้ขาด คำร้องเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เหตุจากคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน แม้แต่นายกฯ แพทองธาร ยังนิ่งเงียบ จะมีก็แต่ยิ้มตอบ หลังถูกถามถึงประเด็นนี้
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เดินฝ่าวงล้อมออกไปแบบนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามใดๆ จะมีก็แค่ยิ้มตอบ หลังนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ถูกถามถึงกระแสข่าวการลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัย-ชี้ขาดคำร้องถอดถอน เหตุไม่ซื่อสัตย์-สุจริตและฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม กรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุนเซน
ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธการหารือกันภายใน กรณีนายกฯ แพทองธาร ลาออก หลังร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2569 ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ที่จะเป็นแผนรองรับสถานการณ์ และยืนยันว่าไม่ได้กังวล และไม่ได้เสียกำลังใจ
สรวงศ์ เทียนทอง ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
สรวงศ์ เทียนทอง ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
ถ้านายกฯ แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้องถอดถอน ก็เป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง ทางหนึ่งเมื่อไม่มีสถานะก็จำหน่ายคดี ศาลรัฐธรรมนูญไม่ต้องวินิจฉัย ยึดกรณีนายพิชิต ชื่นบาน เป็นบรรทัดฐาน แต่อีกทางหนึ่งแม้จะไม่มีสถานะแล้วแต่มีผลทางกฎหมาย ศาลรัฐธรรมนูญย่อมวินิจฉัย
นั่นเพราะบรรทัดฐานของนายพิชิต ชื่นบาน ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องส่วนนั้นทิ้ง หลังลาออกจากความเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว เพราะคำร้องที่ต้องพิจารณา-วินิจฉัย คือคำร้องถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน กรณีแต่งตั้งนายพิชิต เข้าข่าย "ไม่ซื่อสัตย์-สุจริตเป็นที่ประจักษ์และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม"
ซึ่งต่างกับคำร้องถอดถอน นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร แม้จะเป็นข้อกล่าวหาเดียวกัน แต่พฤติการณ์-พฤติกรรมต่างกัน แต่สำหรับมุมมองของ รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก "รอลุ้น" ศาลรัฐธรรมนูญ จำหน่ายคดี หากนายกฯ แพทองธาร ตัดสินใจลาออกเอง เมื่อไม่มีสถานะ ก็ไม่ต้องวินิจฉัย
โดย รศ.สมชัยชี้ว่า เหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่นัดวันวินิจฉัย เพราะผู้ถูกร้อง ขอขยายเวลาส่งคำชี้แจง และศาลรัฐธรรมนูญ ก็ติดภารกิจแต่คาดว่าจะมีคำสั่งนัดหมายออกมาวันนี้ ด้วยเหตุว่า "ไม่ควรล่าช้ากว่านี้" เพราะเป็นคดีสำคัญ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า การดึงเวลาให้ล่าช้าออกไป อาจเป็นการเปิดโอกาสให้นายกฯ ตัดสินใจลาออกเอง
แต่ก็เป็นที่สังเกตว่า ถ้านายกฯ แพทองธาร รอดพ้นจากการถูกศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดคำร้อง ขึ้นมาจริงๆ ก็ยังมีคำร้องเดียวกันนี้ ที่ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการไต่สวน และหากถูกชี้มูลความผิด ก็ต้องส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งแม้จะไม่มีสถานะเป็นนายกฯ แล้ว แต่เหตุแห่งการกระทำยังคงอยู่
หากท้ายที่สุดศาลฎีกาพิพากษา กรณีไม่ซื่อสัตย์-สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จะกลายเป็นผู้ที่อยู่ในข่ายขาดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม "ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" ส่วนกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม โทษคือการเพิกถอนสิทธิ์สมัครลงรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี รวมถึงไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ซึ่งก็เป็นกรณีเดียวกัน ระหว่างนายกฯ แพทองธาร กับอดีตนายกฯ เศรษฐา เพียงแต่ว่า "วิถีการฟ้องร้องเอาผิด" ต่างกัน อดีตนายกฯ เศรษฐา มีคำวินิจฉัย-ชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว แต่นายกฯ แพทองธาร หากลาออกก็อาจจะรอดมือ ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังมี คำร้องในมือ ป.ป.ช. อีก ถ้าหากนายกฯ ลาออก ตามรัฐธรรมนูญ ก็ให้ ครม. พ้นทั้งคณะ และเลือกนายกฯ คนใหม่
อ่านข่าว :
ไร้ทางรอด-หมดตัวเลือก "อวสาน" เพื่อไทย "แพทองธาร-ชัยเกษม"