วันนี้ (19 ส.ค.2568) คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ลงพื้นที่รับทราบข้อเท็จจริงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ของกัมพูชาใน จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ โดยจุดแรกที่จะไปดูคือบริเวณช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดที่มีการรุกเข้ามาตัดลวดหนามของกัมพูชา
คณะสื่อมวลชน ทหาร และคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT เดินทางไปยัง จุดผ่อนปรนช่องอานม้า อ.น้ำยืน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา
แต่เนื่องจากมีสื่อมวลชนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องจัดรถทหารในการเดินทางเพื่อความปลอดภัย รวมถึงทำความเข้าใจในการลงพื้นที่ เพราะยังมีการวางกำลังของทหาร ไทยและกัมพูชา และเป็นพื้นที่สู้รบ จึงห้ามไลฟ์สด และห้ามถ่ายภาพในจุดที่กระทบกับความมั่นคง
โดยจุดที่คณะผู้สังเกตการณ์ ลงพื้นที่คือบริเวณตลาดชาวกัมพูชา ที่เคยขึ้นมาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง และได้รับความเสียหาย จากการสู้รบ ที่ปัจจุบันทหารไทยได้นำรั้วลวดหนามไปล้อมและเป็นจุดที่ทหารกัมพูชา เข้ามาตัดรั้วลวดหนามซึ่งเป็นการทำลายความไว้วางใจและละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่คณะทูตทหารลงมาถึงพื้นที่ มีทหารกัมพูชาเข้ามาแสดงความไม่พอใจ และพยายามกันไม่ให้สื่อและเจ้าหน้าที่ เข้าไปบริเวณอนุสาวรีย์ตาอม ก่อนเจ้าหน้าที่จะเจรจา และมีการนำคณะผู้สังเกตการณ์ เข้าไปดูพื้นที่ความเสียหาย
และตลอดการลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ มีกำลังทหารของไทยและกัมพูชาตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่อย่างเข้มงวด
ในวันนี้นอกจากพื้นที่ช่องอานม้าแล้ว คณะผู้สังเกตการณ์ จะเดินทางไปที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เพื่อดู สภาพพื้นที่การวางกำลังของกัมพูชา รวมถึงพื้นที่ภูมะเขือซึ่งเป็นจุดที่มีการวางทุ่นระเบิดใหม่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.
อ่านข่าว : พลทหารตาซ้ายสูญเสียการมองเห็นจากเหตุสู้รบภูมะเขือ กลับรักษาตัวบ้านเกิด
"กัมพูชา" ตั้งเงื่อนไขร่วมมือไทยกู้ทุ่นระเบิดหลังปักปันเขตแดน
คณะ IOT 8 ชาติลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาวันแรก สอบข้อเท็จจริงละเมิดหยุดยิง