วันนี้ (25 ส.ค.2568) กองทัพอากาศ ตั้งชื่อโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ JAS 39 Gripen E/F ว่า โครงการ "PEACE BURAPHA" ซึ่งตราสัญลักษณ์ โครงการ "PEACE BURAPHA" ที่ร่วมกันออกแบบโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. พล.อ.ท.อนุรักษ์ รมณารักษ์ รอง เสธ.ทอ. และ พ.อ.อ.บดินทร์ จำปา เจ้าหน้าที่ แผนกแผน สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักบริหารยุทโธปกรณ์ กรมยุทธการทหารอากาศ
"PEACE BURAPHA" หรือ "บูรพาสันติ" เป็นชื่อโครงการจากดำริของ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. ที่ต้องการสื่อถึงโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ ซึ่งจะประจำการที่ ฝูงบิน 102 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ในอนาคต จะเป็นเขี้ยวเล็บหนึ่งในกำลังสำคัญในการรักษาความมั่นคงให้พื้นที่ด้านตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านและจะส่งผลให้เกิดเสถียรภาพในภูมิภาค
ตราสัญลักษณ์ ทอ. เป็นรูปปีก ทอ. ที่ใช้ในยุคที่ ทอ. เริ่มใช้วิสัยทัศน์ Unbeatable Air Force ซึ่งเริ่มโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน ในปี 2568 ขณะที่ ธงชาติไทยรูปวงกลมเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทยที่ติดไว้บนอากาศยานทุกแบบของกองทัพอากาศ
ดาวคู่จำนวน 2 ดวง หรือ "STARS" เป็นนามเรียกขานและเป็นสัญลักษณ์ประจำฝูงบิน 102 ยุคใหม่ที่เริ่มใช้สัญลักษณ์ดังกล่าว เมื่อ เครื่องบิน F-16 ADF เข้าประจำการ ในปี 2545 ซึ่งขณะนั้นยังกำหนดภารกิจเป็นฝูงบินขับไล่สกัดกั้น
สำหรับตราสัญลักษณ์ใหม่นั้นใช้คำว่า 102 TACTICAL FIGHTER SQUADRON หมายถึงในอนาคตฝูงบิน 102 จะปรับภารกิจเป็นฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีซึ่งรองรับภารกิจอเนกประสงค์ทั้ง Air to Air และ Air to Ground โดย ฝูงบิน 102 มีคำขวัญประจำฝูงบินว่า "เราจะหยุดไพรีที่ห้าวหาญ"
ดาวสีทองข้างละ 6 ดวง รวม 12 ดวงในขอบวงกลมเป็นการให้เกียรติแก่ ฝูงบิน 12 ซึ่งเดิมมีที่ตั้ง ณ กองบิน 1 ดอนเมือง ที่มีเกียรติประวัติในการรบที่สำคัญในอดีต ก่อนจะย้ายที่ตั้งมาที่กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ 24 ต.ค.2519 จวบจนปัจจุบัน ขณะที่ ข้อความ JAS 39 GRIPEN E/F-RTAF หมายถึง รุ่นของ เครื่องบิน Gripen E/F ที่จะเข้าประจำการในกองทัพอากาศ
ขณะที่ ภาพเครื่องบินที่บินด้วยความเร็วสูงตรงกลางของภาพจะติดอาวุธ แบบ Meteor, AIM-120 AMRAAM และ IRIS-T ซึ่งเป็นอาวุธนำวิถีแบบอากาศสู่อากาศที่ทันสมัย
ทอ.ลงนามซื้อ Gripen ฝูงใหม่ โครงการ "บูรพาสันติ"
เครื่องบินขับไล่กริพเพน E/F ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศ กำลังจะเข้ามาเสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ หลังจากที่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมคณะ เดินทางไปประเทศสวีเดน เพื่อลงนามสัญญาโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen กับองค์การบริหารจัดการยุทธภัณฑ์ทางทหารสวีเดน (FMV) และลงนามรายการชดเชยทางเศรษฐกิจกับบริษัทซาป สวีเดน โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เป็นสักขีพยานลงนามจัดซื้อแบบ "จีทูจี"
ผู้บัญชาการทหารอากาศ ย้ำว่า การจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน E/F เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ที่จะทยอยปลดประจำการ ภาพรวมไม่ได้ทำให้กองทัพอากาศ มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่จะทำให้มีประสิทธิภาพ และคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งมีเรื่องชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ที่สร้างคุณค่าให้ประเทศ
ทั้งนี้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้กองทัพอากาศ จัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน E/ F จากสวีเดน 1 ฝูงบิน ในระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2568 ก่อนจะเห็นชอบชดเชยนำเข้ายุทโธปกรณ์ มูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาท จากโครงการจัดหากริพเพน E/F โดยรวม 1 ฝูง 12 เครื่อง ซึ่งนับเป็นโครงการแรกของกองทัพ ที่ใช้นโยบายชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ หรือ Offset Policy
อ่านข่าว : มทภ.2 รับมอบโดรน-ระบบต่อต้าน มูลค่า 60 ล้านบาท ยันไม่ประมาท
จับตาทีมกฎหมาย "แพทองธาร" ยื่นแถลงปิดคดีคดีคลิปเสียงฮุนเซน 25 ส.ค.
“ดร.ปริญญา” วิเคราะห์กรณี “หมอสุภัทร” ซื้อชุดตรวจโควิด ผิด-ไม่ผิด