สิ่งที่ผมกังวล คือ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแม่ทัพ ก็เหมือนจะมีการทดลอง มีเหตุการณ์ เพื่อให้แม่ทัพต้องเข้ามาจัดการ ส่วน BRN ก็เชื่อว่าเฝ้ามอง หากแม่ทัพจัดการแบบไหน BRN ก็ปรับตัวเหมือนกัน เช่น หากแม่ทัพคนใหม่ดำเนินการเรื่องมวลชน BRN ก็อาจเน้นงานด้านมวลชนการใช้ความรุนแรงทั้ง 2 ฝ่าย จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองหลังจากนี้
นายรักชาติ สุวรรณ อดีตประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ตั้งข้อสังเกต ก่อนวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.2568) จะมีการรับมอบตำแหน่งอย่างเป็นทางการของ พล.ต.นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาค 2 มานั่งเก้าอี้แม่ทัพปลายด้ามขวานแทน พล.ท.ไพศาล หนูสังข์
นายรักชาติ สุวรรณ อดีต ปธ.เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้
นายรักชาติ สุวรรณ อดีต ปธ.เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้
นายรักชาติกล่าวว่า การเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาค 4 คนใหม่ ท่ามกลางรัฐบาลชุดใหม่ที่อายุสั้นประมาณ 4 เดือน สิ่งที่อยากเห็น คือ การเดินหน้าต่อกระบวนการสันติภาพ และความเข้าใจต่อกระบวนการของแม่ทัพคนใหม่ด้วย โดยเฉพาะการสร้างบรรยากาศในพื้นที่ให้เอื้อต่อการพูดคุยสันติสุข
พล.ต.นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาค 2 เตรียมเข้ารับตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 แทน พล.ท.ไพศาล หนูสังข์
พล.ต.นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาค 2 เตรียมเข้ารับตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 แทน พล.ท.ไพศาล หนูสังข์
สอดคล้องกับความเห็นของนายมะยุ เจ๊ะนะ เครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งเป็น 1 ใน 9 คน ที่ถูกฟ้องในคดีนักกิจกรรมแต่งกายชุดมลายู เห็นว่า แม่ทัพคนใหม่จำเป็นต้องเข้าใจ ศึกษาให้ละเอียดเรื่องวัฒนธรรม ความขัดแย้งในพื้นที่ให้ถ่องแท้ ซึ่งไม่สามารถมองมติความมั่นคงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมองให้รอบด้าน
นายมะยุ เจ๊ะนะ เครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งเป็น1 ใน 9 คน ที่ถูกฟ้องในคดีนักกิจกรรมแต่งกายชุดมลายู
นายมะยุ เจ๊ะนะ เครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งเป็น1 ใน 9 คน ที่ถูกฟ้องในคดีนักกิจกรรมแต่งกายชุดมลายู
รวมถึงการเปลี่ยนผ่านต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่น เรื่องของเยาวชน และการเปิดพื้นที่ทางการเมือง หรือ เยาวชน ที่ไม่ใช่แค่เปิดพื้นที่ให้พูด แต่ควรสร้างให้เห็นเป็นรูปธรรม ว่ารัฐสร้างพื้นที่กลางที่จะรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิ งแต่ถ้ามาทำงานโดยมีธงอยู่แล้ว โดยไม่ฟัง ก็จะทำให้คนในพื้นที่รู้สึกว่าตัวตนของตัวเองหายไป หรือผลักคนในพื้นที่ไปอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง สิ่งที่หล่อเลี้ยงความขัดแย้งก็ไม่หายไป
“ทั้งการเปลี่ยนตัวแม่ทัพ หรือการเปลี่ยนรัฐบาล สิ่งที่พวกเราต้องการอย่างเดียว คือ ทุกฝ่ายต้องมีเจตจำนงทางการเมือง ที่ต้องประกาศให้ชัดว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ต้องใช้การเมืองแก้ ไม่ใช่แค่มิติทางความมั่นคงอย่างเดียว ถ้าสิ่งนี้เป็นรูปธรรม เราก็จะสามารถคลี่คลายปัญหา โดยเฉพาะการพูดคุยสันติสุขที่เห็นได้ชัดว่า ในช่วงที่มีการพูดคุยเหตุความรุนแรงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าสิ่งนี้ สามารถนำมิติความมั่นคงได้ ความมั่นใจของคนในพื้นที่ก็จะมีมากขึ้น” นายมะยุ กล่าว
ถ้ารัฐบาลมีเวลาแค่ 4 เดือน เมื่อตั้งคณะพูดคุยเสร็จ กระบวนการเพิ่งเริ่มตั้งไข่ ถ้ายุบสภา คณะทำงานชุดนี้ก็หมดไปโดยปริยาย แต่ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง หลังการเลือกตั้ง งานก็จะได้สานต่อ แต่ก็ต้องไปหารือกับหลายหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ ศอ.บต. และ สมช.ที่เป็นหน่วยงานหลักที่ถืองบประมาณ
ส่วนตัวอยากให้ตั้ง ไม่ว่ารัฐบาลจะมีอายุสั้นหรือยาว เพราะคู่ขัดแย้ง และ ประชาชนในพื้นที่ มีการตอบสนองต่อการพูดคุยสันติสุข ที่อยากเห็นความคืบหน้าในบางประการ จึงจำเป็นที่ฝ่ายทำงานหลังบ้านในเรื่องนี้ต้องทำต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีรัฐบาลหรือไม่
พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พยายามผลักดันให้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นนโยบายหลักของทุกๆ รัฐบาล
พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา สส.พรรคภูมิใจไทย
พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา สส.พรรคภูมิใจไทย
ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับมาอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่าย และท้าทายอีกครั้ง ทั้งจากการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาค 4 คนใหม่ และกระบวนการพูดคุยสันติสุข ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่ความรุนแรงที่มากขึ้น ทำให้คนในพื้นที่หลายคนเริ่มส่งเสียงและอยากเห็นเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ความสูญเสียสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกหลงลืม
เรียบเรียง : ติชิลา พุทธสาระพันธ์ หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคใต้ ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : เสียงสะท้อน "ทักษิณ" ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้รอบ 20 ปี
"รอมฎอน" แนะ รบ.ตั้ง "ทักษิณ-จาตุรนต์-ฉัตรชัย-พล.อ.พนา" หน.คณะพูดคุยสันติภาพ
อดีต ผกก.ตากใบ อาลัยรอยยิ้มสุดท้าย "น้องเมย์" เสียชีวิตจากเหตุรุนแรง