ยังเหลือลุ้นอย่างเดียวก่อนถึงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย คือยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ยังคงไม่ลงมือเสียที นอกจากพยายามยุให้พรรคประชาชนร่วมตรวจสอบรัฐบาลกับการยื่นญัตติซักฟอก
แต่ดูท่าทีจาก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคที่ว่ายังไม่มีที่ร้ายแรงมากพอจะยื่นซักฟอกแล้ว น่าจะปิดประตู
ไม่ต่างจากนายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคอีกคน ที่พยายามเดินหน้ากระทุ้งแผลเรื่องนักการเมืองใหญ่พัวพันแก๊งสแกมเมอร์ เรียกร้องให้รัฐบาลจัดการโดยเริ่มจากคนใน ครม. ก่อน ล่าสุด บอกว่ายังไม่ตัดสินใจเรื่องยื่นซักฟอก ต้องพิจารณาหลายมิติ และต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน
กระทั่งนักสังเกตการณ์การเมืองบางคน ฟันธงว่า เป็นการแบ่งบทกันเล่น เข้าทำนองการเมือง 2 หน้า
แบบนี้คนระดับคนเก๋าเกมในพรรคเพื่อไทย มีหรือจะดูท่าทีพรรคประชาชนไม่ออก จึงได้เห็นแกนนำบางคนเริ่มเปิดแง้ม พร้อมจะลุยเดี่ยวยื่นญัตติซักฟอก ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะได้วิพากษ์โจมตีรัฐบาลเพื่อดิสเครดิต หวังลดคะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยได้
แต่คำว่า "ลุยเดี่ยว" ไม่ได้หมายถึงจะล่ารายชื่อพรรคเดียว เพราะตอนนี้ พรรคเพื่อไทยน่าจะระดม สส.เข้าชื่อ 1 ใน 5 ตามรธน. หรือประมาณ 100 คน ยากเต็มที
แต่ย่อมหมายถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่น นอกจากพรรคประชาชน ซึ่งในทางปฏิบัติ พรรคประชาชาติ ที่มี สส. 9 คน มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะถูกมองว่าเป็นพรรคสาขาในพื้นที่ 3-4 จังหวัดชายแดนใต้
แต่สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มี สส.10 คน จะแตกต่างออกไป เพราะเป็นพรรคมรดกตกทอดของนายบรรหาร ศิลปอาชา จนแทบจะกลายเป็นสถาบันการเมืองไปแล้ว
แม้ก่อนหน้านี้ จะมีความพยายามจุดกระแสหรืออาจโยนหินถามทาง จะดึงนายวราวุธไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และจะให้เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ แต่สุดท้าย "ลูกท็อป" ออกมาปฏิเสธไม่เป็นความจริง
ก่อนจะถูกตอกย้ำ เมื่อนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกรัฐบาล โพสต์ภาพของเขาผ่านเฟซบุ๊ก ร่วมเฟรมกับนายวราวุธ นายนิกร จำนง แกนนำอาวุโสของพรรคชาติไทยพัฒนา และพ่อลูกบ้านใหญ่ "ปริศนานันทกุล" แห่ง จ.อ่างทอง นำโดย "เฮียตือ" นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
มิหนำซ้ำ นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะออกมาตอกย้ำว่า เป็นคนพรรคชาติไทยเก่า คงเป็นการ "รียูเนียน" หรือหากมีอะไรเกิดขึ้น พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมรับเพราะทุกคนมีความสามารถ
ถือเป็นคำอธิบายอยู่ในที เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งหมดอยู่กับพรรคชาติไทย เป็นกลุ่ม "ยังเติร์ก" ที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้บริหารคนรุ่นใหม่ โดยนายวราวุธจะเป็นหัวหน้าพรรค นายสิริพงศ์เป็นเลขาธิการพรรค 2 พี่น้อง "ปริศนานันทกุล" เป็นแกนนำพรรค
แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหลังนายบรรหาร ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อปี 59 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค นายสิริพงศ์ นายภราดร และ นายกรวีร์ จึงย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ก่อนการเลือกตั้งปี 62 และได้กลายเป็นแกนนำคนรุ่นใหม่ของพรรคค่ายสีน้ำเงินในปัจจุบัน
ขณะที่นายอนุทิน เคยกล่าวยกย่องนายบรรหารหลังการอนิจกรรมว่า เป็นนักการเมือง "ผู้มีอภัยทาน" จึงทำให้อยู่บนเวทีการเมืองโดยได้รับการยอมรับยาวนาน จึงเป็นแบบอย่างที่ดี หากนักการเมืองยึดถืออภัยทานเหมือนนายบรรหาร ประเทศจะพ้นภัย
เท่ากับสะท้อนความผูกพันกันมายาวนานตั้งแต่สมัยนายบรรหาร และ 2 พ่อลูก นายชวรัตน์-นายอนุทิน ชาญวีรกูล เล่นการเมืองครั้งแรกสังกัดพรรคชาติพัฒนา ของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งเป็นพรรคพี่พรรคน้องกับพรรคชาติไทย ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา
เท่ากับโอกาสที่จะหวังดึง สส. 10 คนของพรรคชาติไทยพัฒนา ไปร่วมลงชื่อในญัตติซักฟอก จึงเป็นเรื่องยาก และยังเสมือนปิดโอกาส ที่พรรคเพื่อไทยจะรวบรวม สส. ได้ครบประมาณ 100 คนเพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
หรือแม้หากแม้ฝ่าฟันอุปสรรคนานา กระทั่งหา สส. ได้ครบจำนวน ยื่นญัตติซักฟอกได้ แต่สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนนี้ ในชั้นกรรมาธิการได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาในร่างหลักของพรรคประชาชน โดยตัด สสร. และสภาที่ปรึกษา ซึ่งเป็นสูตรเดิมออกไปแล้ว ทำให้มีโอกาสจะเสร็จทันก่อนยุบสภา กรณีมีเปิดสมัยวิสามัญลงมติวาระ 2 ก่อนเปิดสมัยสามัญ 12 ธ.ค.
เท่ากับยื่นญัตติได้ แต่ก่อนถึงมือประธานสภาผู้แทนฯ จะมีการชิงยุบสภาเกิดขึ้น หนีโหวตรัฐบาลเสียงข้างน้อยสำเร็จ ญัตติซักฟอกจะตกเป็นหมันทันที
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าวอื่น :
ภท.มั่นใจยุทธศาสตร์ "บ้านใหญ่" พรรคอื่นเหลวแต่เชื่อสีน้ำเงินได้ผล