วันนี้ (17 พ.ย.2568) สถานการณ์น้ำท่วมในภาคกลางทำให้ราคาพืชผักในภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ตรัง พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น ผักชีนอกห้างสรรพสินค้ากิโลกรัมละ 300 บาท และในห้างกิโลกรัมละ 369 บาท ขณะที่ผักพื้นถิ่นในพื้นที่ก็ได้รับความเสียหายจากฝนตกหนักเช่นกัน ส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายเงินมากขึ้นในการซื้อวัตถุดิบอาหารประจำวัน
ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาที่ตลาดเทศบาลนครตรัง พบว่าผักหลายชนิดที่นำเข้าจาก กทม.และจังหวัดภาคกลางปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากแหล่งผลิตได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้พืชผักเสียหายจำนวนมาก นางสุธาภรณ์ วันจันทร์ แม่ค้าขายผักรายหนึ่ง เล่าว่าปัญหานี้เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่หลังเทศกาลกินเจ โดยราคาผักบางชนิดพุ่งสูง เช่น
- บรอกโคลี จาก กก.ละ 70 บาท เป็น 90 บาท
- ผักชีจาก กก.ละ 200 บาท ในช่วงกินเจ ปรับเป็น 250 บาท และ ตอนนี้ 300 บาท
- ต้นหอมจาก 70 บาท เป็น 120 บาท
- ขึ้นฉ่ายจาก 100 บาท เป็น 150 บาท
- พริกจินดาแดงจาก 80 บาท เป็น 120 บาท
นอกจากนี้ แม่ค้ายังสังเกตว่าผักชีที่นำเข้ามามีต้นเล็กกว่าปกติ คาดว่าน่าจะเกิดจากน้ำท่วมท่วมแปลงปลูก หรือเกษตรกรรีบเก็บเกี่ยวส่งขายในช่วงที่ราคาดี แม้จะกระทบคุณภาพบ้าง แต่ก็ช่วยให้มีสินค้าขายได้ แนวโน้มราคาในอนาคต แม่ค้าคาดว่าจะปรับตัวลงในเร็ว ๆ นี้ เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย
ส่วนราคาพืชผักในห้างสรรพสินค้าที่ตรัง พบว่ายังสูงเช่นกัน โดยผักชี กก.ละ 369 บาท ใบโหระพา กก.ละ 149 บาท กวางตุ้งไต้หวัน กก.ละ 75 บาท คะน้ายอด กก.ละ 95 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 55 บาท และกะหล่ำปลีม่วง กก.ละ 69 บาท สถานการณ์นี้ไม่เพียงกระทบกระเป๋าผู้บริโภค แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจชุมชนที่พึ่งพาการค้าพืชผัก
อ่านข่าวอื่น :
จนท.จีนจับกุมอดีตเจ้าอาวาส "วัดเส้าหลิน" ข้อหายักยอก-รับสินบน
คนไทยอ้างถูกหลอก บังคับสแกนหน้าบัญชี โอนเงิน 300 ล้าน