เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2568 ไล่ ชิง-เต๋อ ปธน.ไต้หวัน เผยแพร่ภาพบน X 賴清德Lai Ching-te โดยโพสต์ภาพมือข้างหนึ่งถือจานซูชิ และอีกข้างคีบซูชิขึ้นมา เพื่อแสดงการสนับสนุนญี่ปุ่นด้วยการกินซูชิจากญี่ปุ่นเป็นมื้อกลางวัน พร้อมแคปชันที่พิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่น きょうの昼食はお寿司と味噌汁です #鹿児島産のブリと北海道産のホタテ แปลเป็นไทยว่า วันนี้มื้อกลางวันคือซูชิกับซุปมิโซะ #ปลาบุริจากจังหวัดคาโกชิมะ และหอยเชลล์จากฮอกไกโด
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจีนประกาศห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมด ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่น จากคำพูดของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกฯ ญี่ปุ่น คนใหม่ที่พาดพิงเรื่องไต้หวัน
รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนญี่ปุ่น พร้อมระบุว่าจีนใช้การบีบบังคับทางเศรษฐกิจและข่มขู่ทางทหารเพื่อกลั่นแกล้งประเทศอื่น โดยนำการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวมาเป็นอาวุธโจมตีไต้หวัน แม้ญี่ปุ่นจะไม่มีสัมพันธ์ทางการกับไต้หวัน แต่ทั้งสองเป็นพันธมิตรใกล้ชิดและหุ้นส่วนการค้าสำคัญ ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของไต้หวัน ขณะที่ไต้หวันเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 4 ของญี่ปุ่น
โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงเรียกร้องให้ผู้นำญี่ปุ่นถอนคำพูดและดำเนินการจริงจังเพื่อปกป้องความสัมพันธ์เศรษฐกิจและการค้า หากญี่ปุ่นยืนกรานเลือกทางผิด จีนจะใช้มาตรการจำเป็นต่อไป ด้าน เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ย้ำจุดยืนว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนที่ไม่อาจแยกได้ ผู้นำไต้หวันเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้
เธอยังพาดพิงอดีตที่ญี่ปุ่นยึดครองไต้หวันด้วยกำลังและปกครองแบบอาณานิคมครึ่งศตวรรษ ชาวไต้หวันทุกข์ทรมานอย่างหนัก ถือเป็นช่วงมืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ไต้หวัน ปีนี้ครบรอบ 80 ปีการคืนไต้หวันให้จีน ญี่ปุ่นต้องจำไว้ว่าไต้หวันคือของจีน ไม่ว่าเกิดอะไรกับไต้หวันก็ไม่ใช่ธุระญี่ปุ่น
การใช้ข้ออ้างที่ว่าไต้หวันสร้างปัญหา จะนำปัญหามาให้ญี่ปุ่นเอง รัฐบาลญี่ปุ่นควรยึดหลักจีนเดียวและเจตนารมณ์เอกสารทางการเมือง 4 ฉบับระหว่างจีน-ญี่ปุ่น เรียกร้องให้ถอนคำพูดผิดและดำเนินการจริงจังเพื่อรักษาพันธสัญญาต่อจีน
ทางด้าน มิโนรุ คิฮาระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า ญี่ปุ่นจะเรียกร้องให้จีนอำนวยความสะดวกส่งออกอาหารทะเล และขอให้ยกเลิกห้ามนำเข้าจาก 10 จังหวัด หลังจีนเคยประกาศเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่าจะนำเข้าอาหารทะเลจากทุกจังหวัดยกเว้น 10 จาก 47 จังหวัด การบังคับใช้ใหม่จะเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับหลายบริษัท
เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นในจีน กังวลว่าการห้ามนำเข้าจะกระทบวัตถุดิบที่ต้องนำจากญี่ปุ่นเท่านั้น หาไม่ได้ในท้องถิ่น แต่ไม่กังวลความปลอดภัยส่วนตัวมากนัก เพราะจีน-ญี่ปุ่นตึงเครียดบ่อยครั้ง เพียงแต่กลัวปัญหาการเมืองทำให้ติดต่อธุรกิจและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมยากขึ้น เจ้าของบางรายระบุว่านับแต่ตึงเครียดรุนแรง ลูกค้าบางส่วนยกเลิกจองแม้ไม่แจ้งสาเหตุชัดเจน
อ่านข่าวอื่น :
สุราษฎร์ฯ ประกาศ 3 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม อ.ไชยาน่าห่วงสุด
ปมไต้หวันฉุดเศรษฐกิจญี่ปุ่น จีนขู่แบน "อาหารทะเล" เสียหายพันล้านเยน