วันนี้ (25 พ.ย.2568) ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย กำลังเผชิญน้ำท่วมหนักเช่นกัน ทำให้ประชาชนกว่า 15,000 คนในหลายรัฐต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย ขณะที่ทางการมาเลเซียประสานงานกับไทยเพื่อเร่งช่วยเหลือพลเมืองที่ตกค้างอยู่ในไทย โดยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่ามีชาวมาเลเซียตกค้างในไทยประมาณ 1,500 คน
ชาวมาเลเซียในรัฐปะลิสต้องเดินลุยน้ำท่วมสูงเกือบถึงไหล่เพื่อช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่ประสบภัย หลังจากพื้นที่ดังกล่าวและอีกหลายพื้นที่ใน 7 รัฐทางตอนเหนือและตอนกลางของประเทศ เผชิญฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยบางจุดมีปริมาณน้ำฝนสะสมมากถึง 33 มิลลิเมตรภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์น้ำท่วมนี้ทำให้ประชาชนมากกว่า 15,000 คนต้องอพยพหนีเอาชีวิตรอด โดยรัฐกลันตันเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดและมีผู้ต้องอพยพมากที่สุด ทางการได้จัดตั้งศูนย์อพยพแล้วอย่างน้อย 90 แห่งเพื่อรองรับผู้ประสบภัย พร้อมทั้งสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่และทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชน โดยจนถึงตอนนี้ในมาเลเซียยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยามาเลเซียคาดการณ์ว่าพื้นที่ทางตอนเหนือและตอนกลางของประเทศเกือบทั้งหมดจะยังคงเผชิญฝนตกหนัก รวมถึงพายุฝนฟ้าคะนองต่อไปจนถึงวันพุธนี้
ด้านอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งตอนนี้อยู่ที่เคนยา ระบุว่าตนกำลังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากทางการอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการ โดยเฉพาะเมื่อได้รับคำสั่งให้อพยพทันที พร้อมเน้นย้ำว่าความปลอดภัยของครอบครัวควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก พื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของมาเลเซียมักเผชิญเหตุน้ำท่วมเป็นประจำในช่วงฤดูมรสุม หรือตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมถึงมีนาคมของทุกปี
ขณะที่เบอร์นามา สื่อมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียกำลังประสานงานกับไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งช่วยเหลือพลเมือง โดยจากข้อมูลที่ได้รับพบว่ามีชาวมาเลเซียประมาณ 1,000 คนตกค้างอยู่ในหาดใหญ่ และอีก 500 คนตกค้างอยู่ในจังหวัดอื่น ๆ ทางภาคใต้ของไทย โดยนับจนถึงวันอาทิตย์ (23 พ.ย.) ทางการได้อพยพชาวมาเลเซียออกจากพื้นที่ไปแล้วประมาณ 2,500 คน
Source : Bernama
Source : Bernama
ส่วนที่เวียดนาม ประชาชนยังคงเดินหน้าเก็บกวาดเศษซากความเสียหายในพื้นที่ประสบภัยทางตอนกลางของประเทศ หลังเพิ่งเผชิญกับน้ำท่วมหนักและดินถล่มตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ทางการเร่งส่งเจ้าหน้าที่รัฐ ทหารและตำรวจช่วยเหลือในภารกิจฟื้นฟู พร้อมทั้งขนส่งและแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน
วานนี้ (24 พ.ย.) เจ้าหน้าที่เวียดนาม รวมถึงโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมใจยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับความสูญเสียจากภัยพิบัติระลอกนี้ ซึ่งล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 91 คน ส่วนใหญ่จมน้ำเสียชีวิต และยังมีผู้สูญหายอีก 11 คน
นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนมากกว่า 23,000 หลัง เช่นเดียวกับพื้นที่เกษตรกรรมอีกมากกว่า 500,000 ไร่ ซึ่งภูมิภาคที่ประสบภัยเป็นแหล่งผลิตกาแฟที่สำคัญของเวียดนาม และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผลผลิตกาแฟของเวียดนามในปีนี้ ขณะที่การประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากน้ำท่วมระลอกนี้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 16,000 ล้านบาทแล้ว หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาระบุว่าระดับน้ำท่วมลดลงแล้ว แต่ยังมีฝนตกต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดดินถล่มเพิ่ม
อ่านข่าวอื่น :
นักท่องเที่ยวติดค้างในสนามบินหาดใหญ่ ต้องนอนค้างอาคารผู้โดยสาร
น้ำท่วมหาดใหญ่วันที่ 4 เตือนรับน้ำอีกระลอกเช้านี้ - คนยังติดค้างจำนวนมาก