วันนี้ (2 ธ.ค.2568) ภาพมุมสูงเหนือเมืองทางตะวันออกของศรีลังกา พบว่ามีน้ำท่วมเป็นวงกว้าง หลังอิทธิพลของพายุไซโคลนดิตวาห์พัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ฝนตกหนักจนน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
อินเดียและปากีสถาน ส่งทหารร่วมทำภารกิจกู้ภัยในศรีลังกา ขณะที่หลายประเทศให้คำมั่นจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งรวมถึงจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา หลังจากประธานาธิบดีศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ โดยประเมินว่าอาจต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟู 31,000 ล้านรูปีศรีลังกา หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท
ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตในศรีลังกาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 366 คน คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังคงมีผู้สูญหายอีกมากกว่า 360 คน ขณะที่มีพื้นที่ประสบภัยอีกหลายจุดที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปไม่ถึง ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาเพิ่มในสัปดาห์นี้ ยิ่งซ้ำเติมให้สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายยิ่งขึ้น
ส่วนที่อินโดนีเซีย ทหารระดมกำลังลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม-ดินถล่มในจังหวัดเวสต์ สุมาตรา เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ขณะที่ชาวบ้านเร่งเก็บกวาดดินโคลนและสำรวจทรัพย์สินที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มในอินโดนีเซียเพิ่มเป็นอย่างน้อย 604 คน สูญหาย 464 คน และมีผู้อพยพทิ้งบ้านเรือนเพื่อเอาชีวิตรอด 570,000 คน
สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ภัยพิบัติระลอกนี้สร้างความเสียหายกับบ้านเรือนมากกว่า 28,000 หลัง กระทบประชาชนประมาณ 1,500,000 คน
ทางการอินโดนีเซียเดินหน้าส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่องทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ขณะที่กระทรวงโยธาธิการส่งรถขุดดินมากว่า 60 คัน เร่งกระบวนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
ด้านปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เดินทางลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) เพื่อตรวจสอบความเสียหายและประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้งส่งเครื่องบินรุ่น C-130 ของกองทัพ เรือรบ 3 ลำ และเรือพยาบาลอีก 2 ลำ สนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ขณะที่นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้จัดการโครงการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการสร้างเสริมความเข้มแข็งมั่นคงต่อภูมิอากาศในระยะยาว สำหรับพื้นที่ชายฝั่งและพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย ระบุกับทีมข่าวไทยพีบีเอส ว่า จริงๆ มีความพยายามในการสร้างกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อจัดการภัยพิบัติ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะแต่ละประเทศต้องการพัฒนาศักยภาพและระบบของตัวเอง
ดังนั้นกลไกที่มีอยู่ จึงเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและช่วยเหลือกันเมื่อเกิดปัญหาเท่านั้น ขณะที่การพูดคุยหารือไม่ได้มีอะไรเป็นรูปธรรม ทำให้บทบาทของท้องถิ่นสำคัญมากที่สุด แต่จุดหนึ่งที่น่ากังวล คือ ปัญหาในปัจจุบันอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
อ่านข่าว : ฮ่องกงไว้อาลัยเหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักอาศัย เสียชีวิตเพิ่มเป็น 146 คน
น้ำท่วม-ดินถล่มเสียชีวิต 334 คน หลังพายุไซโคลนถล่มศรีลังกา
ฮ่องกงไว้อาลัยเหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักอาศัย เสียชีวิตเพิ่มเป็น 146 คน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: