สายสัมพันธ์
สัญญาณที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งตรงจากบ้านพักมูลนิธิป่ารอยต่อ 5จังหวัด ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ที่ พล.อ.ประวิตรใช้เป็นสถานที่ทำงานชั่วคราว สลับกับบ้านพักย่านลาดพร้าวช่วงพักฟื้นจากอุบัติเหตุสะดุดล้มเมื่อต้นสัปดาห์ผ่านมา จนไม่สามารถไปประชุมคณะรัฐมนตรีรวมถึงปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ โดยยืนยันว่า จะช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จนกว่าบ้านเมืองที่จะดีขึ้นหรือจนกว่าจะทำไม่ไหว
เป็นการยุติข่าวลือปัญหาความสัมพันธ์ ระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยเหตุกระแสข่าวว่า อาจจะถูกปรับให้เหลือตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพียงตำแหน่งเดียว นอกเหนือจากกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจจน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกมาย้ำถึงแนวทางการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้นจะต้องคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก
สายสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประวิตร ในฐานะพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมายาวนานในเส้นทางของนายทหารที่เติบโตจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จนขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญในกองทัพ และมีส่วนร่วมแก้ปัญหาในบ้านเมือง ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์ 22 พฤษภาคม 2557 และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ล้วนมีบทบาทสำคัญในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งใน คสช.และรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะสั่นคลอนความสัมพันธ์ที่ผ่านช่วงวิกฤติประเทศมาด้วยกัน
ขณะที่การปรับคณะรัฐมนตรียังไม่มีความชัดเจน ทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องจับตามองช่วงเปลี่ยนผ่านในกองทัพจากการเกษียณอายุราชการของผู้บัญชาการเหล่าทัพในบางตำแหน่งกับกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มาพร้อมกันในช่วงนี้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกันและกองทัพก็คือกองทัพที่มีศักดิ์ศรีในการทำหน้าที่โดยไม่มีแนวคิดปรับตำแหน่งในคสช.เข้ามาเป็นรัฐมนตรี
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะย้ำถึงอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาประเทศช่วงสถานการณ์พิเศษนี้ แต่การที่รัฐบาลจะยืนหยัดมีเสถียรภาพอยู่ได้ ก็ยังต้องขับเคลื่อนด้วยระบบราชการ และ พล.อ.ประยุทธ์ ยังจำเป็นต้องมีบุคคลที่ไว้วางใจได้ เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศ วางรากฐานการปฎิรูป และประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้