ปล่อยตัวหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ ตอน 1
บ้านพักนายสะมะแอ สะอะ หรือ นายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ อดีตแกนนำกองกำลังติดอาวุธขบวนการพูโล ในตำบลท่าน้ำ อำเภอปานาเระ จังหวัดปัตตานี เต็มด้วยผู้คนที่มาแสดงความยินดี และอสบถามความเป็นอยู่ หลังนายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ ได้รับการพักโทษจากเรือนจำกลางจังหวัดยะลา ใช้ชีวิตสู่โลกภายนอก ช่วงเทศกาลฮารีรายอที่ผ่านมา
อดีตแกนนำกองกำลังติดอาวุธขบวนการพูโล เผยว่า หลังรับอิสรภาพสิ่งที่อยากเห็นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือความสันติสุขและความมั่นคงในพื้นที่ จึงเสนอให้ทุกฝ่ายสร้างความสามัคคี เพราะเป็นปัจจัยใจหลักที่ช่วยคลี่คลายความขัดแย้ง และรัฐต้องส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนมีงานทำและพัฒนาการศึกษาเพื่อลดปัญหาความยากจน
"ปัญหาในพื้นที่ส่วนหนึ่งคือไม่มีงานทำ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจนิสัยมนุษย์ เมื่อหิวก็ต้องกิน เมื่ออิ่มก็สบาย นั่นคือธรรมชาติ เมื่อมีงานทำ มีเงิน สามารถดำรงชีวิตได้ ปัญหาก็จะหมดไป " นายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ กล่าว
ขณะที่การแก้ปัญหาของกลุ่มก่อเหตุอดีตแกนนำพูโลเห็นด้วยกับการพูดคุยสันติสุข ระหว่างรัฐบาลไทยและกลุ่มผู้เห็นต่าง เพราะความขัดแย้งสุดท้ายจะจบด้วยการเจรจา แต่ต้องใช้เวลา เพราะกลุ่มขบวนการแต่ละกลุ่มมีแนวคิดเป็นของตัวเอง ไม่สามารถจบลงในเวลาอันสั้น และโดยส่วนตัวจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการพูดคุย แต่หากรัฐให้ช่วยเป็นคนกลางพูดคุยกับกลุ่มต่าง ๆ ก็ยินดีให้ความร่วมมือ
"ถ้ารัฐบาลจะใช้ผม ผมก็พร้อมช่วยการพูดคุยเจรจาสันติภาพ สิ่งไหนที่สามารถช่วยได้ผมจะช่วยทำ เพื่อให้ชายแดนใต้สงบสุข และ ปีหน้าทุกคนต้องเตรียมพร้อมการประกาศประชาคมอาเซี่ยน ผมมองว่าสันติภาพเกิดขึ้นได้ ทุกคนต้องร่วมมือกัน ทั้งรัฐบาล กลุ่มขบวนการ และ ประชาชน " นายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ ระบุ
ขณะที่ชาวบ้านบางคน มองว่า รัฐควรแสดงความจริงใจในการช่วยเหลือแกนนำกลุ่มพูโลและกลุ่มอื่น ๆ ให้เข้ามาแก้ปัญหา เพราะหากรัฐไม่จริงใจกับอดีตแกนนำ ก็อาจจะทำให้การพูดคุยลำบากมากขึ้น
นายสะมะแอสะอะ หรือ นายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ เข้าร่วมขบวนการพูโลเมื่ออายุประมาณ 20 ปี มีตำแหน่งสูงสุดในขบวนการเป็นระดับแกนนำกองกำลังติดอาวุธ เคยยิงปะทะเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง และถูกจับเมื่อปี 2540 ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในคดีกบฎแบ่งแยกราชอาณาจักร ระหว่างอยู่ในเรือนจำประพฤติตัวดี จึงได้รับการพักโทษ ออกจากเรือนจำ ช่วงเทศกาลฮารีรายอที่ผ่านมา