โรงเรียนใน กทม.ส่วนใหญ่เปิดเทอมวันแรก
แม้จะมีคำท้วงติงจากพ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเด็ก เกี่ยวกับการจัดตารางการเรียนการสอนชดเชยให้กับเด็กมากเกินไปจนไม่มีเวลาหยุดพัก แต่ในที่สุดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวน 345 โรงเรียน ในพื้นที่ 40 สำนักงานเขต จะมีการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ในวันนี้(6 ธ.ค.) รวมถึงโรงเรียนในพื้นที่ที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูงจำนวน 91 โรงเรียน ในพื้นที่ 10 สำนักงานเขต ประกอบด้วย เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตบางบอน เขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม เขตบางแค เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี และเขตบางเขน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเรียนในวันที่ 6 ธันวาคมได้ จะเลื่อนไปเปิดเรียนในวันที่ 13 ธันวาคมนี้
โดยนักเรียนที่เปิดเรียนในวันนี้กรุงเทพมหานครจะเปิดทำการเรียนการสอนชดเชยในช่วงเย็นวันธรรมดา ในช่วงเวลา 15.00 – 16.00 น. ตั้งแต่วันเปิดภาคเรียนจนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 และสอนชดเชยในวันหยุด ในวันเสาร์วันละ 5 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2554 - 3 มีนาคม 2555
ส่วนโรงเรียนที่เปิดภาคเรียนในวันที่ 13 ธันวาคม จะสอนชดเชยวันละ 5 ชั่วโมง ในวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2554 - 3 มีนาคม 2555 และในวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2554 - 15 มกราคม 2555 แต่จะยกเว้นวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2555 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนที่เปิดภาคเรียนในสัปดาห์หน้าจะต้องเรียนในตารางเรียนปกติ และเรียนชดเชยรวมกันแล้วครบทั้ง 7 วันไม่มีวันหยุด
ด้าน พญ.อังคณา อัญญมณี จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ให้ความเห็นว่าการเลื่อนการเปิดเทอมเป็นเวลานานนั้น ทำให้บทเรียนต่างๆต้องอัดแน่นขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการสอนเพิ่มเติม เพราะด้วยความจำเป็นที่แต่ละโรงเรียนที่จะต้องสอนให้ครบตามเนื้อหาตามหลักสูตร เพื่อรักษาคุณภาพ แต่การปรับการเรียนการสอน แต่ก็ควรจะต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของเด็กด้วย
สำหรับในช่วงเปิดเรียนแรกๆ เด็กบางส่วนจะรู้สึกขี้เกียจ เพราะว่ายิ่งหยุดนานจะต้องมีการปรับตัวมากขึ้น ดังนั้นในช่วงแรกๆ โรงเรียนควรให้เวลาปรับตัวสำหรับเด็กๆ ก่อนสัก 1-2 สัปดาห์ ไม่ใช่ว่าเปิดเทอมวันแรกก็เริ่มให้เด็กเรียนชดเชยไปจนถึง 18.00 น. อาจทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากเรียน และพากันโดดเรียนได้ เพราะฉะนั้นทางโรงเรียนต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจธรรมชาติของเด็ก และแจ้งให้เด็กทราบล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมตัวและปรับตัวได้รวมถึงการพูดคุยกับพ่อแม่ ซึ่งก็จะต้องมีการปรับเวลา ปรับการดำเนินชีวิตตามไปด้วย เช่น การรับส่ง หรือ การทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับครอบครัว
นอกจากนี้ พญ.อังคณายังให้ความเห็นว่าการวางแผนการเรียนการสอนที่แน่นและเร่งจนเกินไปเพื่อให้ทันกับทุกเนื้อหานั้น จะทำให้บรรยากาศการเรียนการสอนเครียดจนเกินไป และจะไม่ช่วยให้การเรียนรู้ดีขึ้น ดังนั้นการปรับตารางเรียนเพิ่ม คุณครูควรวางแผนการสอนในแต่ละวิชา ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ก็ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ไปพร้อมๆ กันด้วย
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าได้เห็นชอบประกาศสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. เรื่อง นโยบาย และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขึ้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2555 โดยปฏิทินการรับนักเรียนปีการศึกษา 2555 กำหนดไว้ดังนี้ ก่อนประถมฯ สมัครวันที่ 2-6 มีนาคม 2555 ป.1 สมัคร 9-13 มีนาคม 2555 ม.1 แบ่งเป็นประเภทความสามารถพิเศษ สมัคร 30 มีนาคม -1 พฤษภาคม 2555 ประเภทสอบคัดเลือกและใช้คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขึ้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต สมัคร 30 เมษายน-3 พฤษภาคม 2555 ประเภทจับสลากในเขตพื้นที่ สมัคร 30 เมษายน-3 พฤษภาคม 2555 และประเภทเงื่อนไขพิเศษสมัคร 30 เมษายน-3 พฤษภาคม 2555
ส่วนระดับ ม.4 โรงเรียนที่สอนทั้ง ม.ต้น และม.ปลาย แบ่งเป็น ประเภทนักเรียนที่จบ ม.3 เดิม รายงานตัว 11 พฤษภาคม 2555 ประเภทสอบคัดเลือกและคะแนนโอเน็ตจากนักเรียนที่จบ ม.3 จากโรงเรียนอื่น สมัคร 30 เมษายน-3 พฤษภาคม 2555 ประเภทเงื่อนไขพิเศษ สมัคร 30 เมษายน-3 พฤษภาคม ส่วนโรงเรียนที่เปิดสอนเฉพาะ ม.ปลาย แบ่งเป็นประเภทความสามารถพิเศษ สมัคร 15-19 มีนาคม 2555
สำหรับปฏิทินรับสมัครครั้งนี้ปรับให้ล้อตามกำหนดการเลื่อนสอบโอเน็ต ป.6 และม.3 เพื่อให้นักเรียนได้เรียนครบถ้วนตามหลักสูตรและโรงเรียนไม่ต้องเร่งการสอนชดเชย ทั้งนี้กำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 นั้นจะเลื่อนไปเปิดวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 จากเดินเป็นวันที่ 16 พฤษภาคม 2555 ของทุกปี
ด้านคณะกรรมการบริหาร สทศ. มีมติเห็นชอบเลื่อนการจัดทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขึ้นพื้นฐาน หรือโอเนต ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 จากเดิมวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากเดิมวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์ 2555 โดยจะประกาศผลภาคในวันที่ 28 เมษายน 2555 ทั้งนี้ แม้จะมีการเลื่อนกำหนดการสอบแต่ สทศ.สามารถดำเนินการในตรวจข้อสอบได้ทันแน่นอน อย่างไรก็ตามในส่วนของ ม.6 นั้นยังคมกำหนดเดิมวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ 2555