คุ้มกันเรือสินค้าจากจีนเที่ยวแรก
กำลังผสมระหว่างตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยลุ่มน้ำโขง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงราย กว่า 100 นาย ออกลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำเพื่อดูแลด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะการคุ้มกันเรือสินค้าจีน 9 ลำ จากเมืองกวนเหล่ย ประเทศจีน มายังท่าเรือเชียงแสน เป็นเที่ยวปฐมฤกษ์ เมื่อช่วงบ่าย หลังทางการจีนมีคำสั่งให้เรือสินค้าจีนหยุดเดินเรือมานานกว่า 2 เดือน เพราะเรือสินค้าจีน 2 ลำ ถูกโจมตีอย่างปริศนาจนเป็นเหตุให้กัปตัน และลูกเรือเสียชีวิตรวม 13 คน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา
ด้าน พล.ต.ต.สิทธิพร ศรีจันทร์ทับ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่าเหตุการณ์การโจมตีเรือสินค้าจีน ทำให้แต่ละประเทศในลุ่มน้ำโขง มีความร่วมมือกันเป็นรูปธรรมมากขึ้น ในส่วนของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง หรือ ศปปข. ตำรวจจะเป็นกำลังหลักในการทำงาน ส่วนที่ท่าเรือเชียงแสนจะเป็น ศปปข.ส่วนหน้า และได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคมเป็นต้นไป
ส่วนความคืบหน้าด้านคดีซึ่งมีทหารชั้นสัญญาบัตร และประทวนของกองกำลังผาเมือง 9 นาย ถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นศพ ถือว่าคดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ แต่มีผลเข้ามาปรากฎในดินแดนไทยตามกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 20 ขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปให้กับทางอัยการสูงสุดซึ่งจะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และมีพนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.รชต เย็นทรง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดูแล คดีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 70 เพราะยังมีพยานบางส่วนที่อยู่ต่างประเทศ ยังไม่ได้ไปให้ปากคำ
มีรายงานว่าก่อนทางการจีนอนุญาตจีนอนุญาตให้มีการเดินเรือสินค้า มีการปะทะกันระหว่างทหารพม่าและลาว กับ กลุ่มติดอาวุธ หรือ โจรสลัดแม่น้ำโขง คาดว่าเป็นกลุ่มของนายหน่อคำ บริเวณบ้านดอนสามปู เหนือสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไปทางเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร โดยภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งกลุ่มโจรสลัดแม่น้ำโขงมีความชำนาญพื้นที่