กมธ.ตรวจสอบทุจริตถุงยังชีพ
หลังคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นประธานกรรมาธิการฯได้เรียกประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียนการจัดซื้อจัดจ้างกรณีถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเชิญนายบุญเติม โนนจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเติมคอร์ปอเรชั่น จำกัดและผู้จัดการบริษัทพูนเจริญพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนคู่สัญญา ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ได้จากผู้ชี้แจงน้อยมาก ในขณะเดียวกันบ่งชี้ถึงข้อพิรุธทั้งอาการ และข้อมูลการรู้จักกับบุคคลในหน่วยงานรัฐ ทั้งที่อ้างอิงว่าเป็นคู่สัญญามาก่อนหน้านี้แล้ว จึงตั้งข้อสังเกตถึงความพยายามที่จะปกปิดบางอย่าง ซึ่งเบื้องต้นทำให้เชื่อได้ว่าการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์ ระหว่างเจ้าหน้าที่ และบริษัทคู่สัญญา โดยเฉพาะการสั่งซื้อและได้สินค้าเพียงในวันเดียว แต่ด้วยข้อเท็จจริงก็คาดการณ์ว่าน่าจะใช้เวลาประชุมอีก 2 นัดถึงจะสรุปและเสนอเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ดำเนินการสอบสวนต่อไปได้
สำหรับบริษัทเอกชนที่เข้าชี้แจงวันนี้ ประกอบไปด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด พูนเจริญพาณิชย์ ,ร้านเอื้อธนพัฒน์ ,บริษัทเติมคอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทพีเออร์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด และทั้งหมดเป็นคู่สัญญาในการจัดซื้อจัดจ้างกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และสาะสำคัญที่จะได้จากการตั้งคำถามของกรรมาธิการฯ พบว่า วิธีพิเศษในการจัดซื้อ ไม่ใช่การเปิดประมูลราคาสินค้า แต่เป็นการสอบถามราคาสินค้า และแม้จะบอกว่าเป็นคู่สัญญากันมาก่อน แต่ผู้เข้าชี้แจงกลับปฏิเสธความรู้จักกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งที่หนังสือสั่งสินค้าก็ระบุชื่อ จึงกลายเป็นข้อพิรุธให้กรรมาธิการฯตั้งข้อสังเกต ขณะเดียวกัน ยืนยันถึงศักยภาพที่สามารถผลิตถุงยังชีพได้ในจำนวนแสนถุง แต่ในอัตราการส่งกับไม่ถึง พร้อมกันนั้นยังพบว่าการสั่งซื้อ และการส่งสินค้ายังเป็นวันเดียวกัน คือวันที่ 19 ตุลาคม ปี 2554