วันนี้ (2 ส.ค.2568) เวลา 07.30 น. มีกลุ่มมวลชน “คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ทยอยมายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขตพญาไท กทม. ชุมนุมให้กำลังใจทหารชายแดน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว
ผู้ที่มาชุมนุมหลายคนสะท้อนว่า วันนี้ต้องการมาให้กำลังใจเหล่าทหารที่อยู่แนวหน้า เนื่องจากทราบว่า เหตุปะทะทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและเสียชีวิต สิ่งที่ประชาชนทำได้ตอนนี้ คือ การให้กำลังใจ และมาร่วมแสดงพลังในวันนี้
ขณะที่บางคนสะท้อนว่า ได้ติดตามสถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา มาอย่างต่อเนื่อง และรับไม่ได้กับเหตุการณ์เริ่มแรก ที่มีทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดถึง 2 ครั้ง ซึ่งทางกองทัพบก ยืนยันว่าเป็นกับระเบิดใหม่ รวมถึงสถานการณ์รุนแรงขึ้นจากการที่กัมพูชา เริ่มยิงจรวดถล่มฝั่งไทย ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์และเด็ก รวมถึงการยิงจรวดใส่โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และบ้านเรือนประชาชน ที่นำมาสู่ความสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ทำให้ทนไม่ได้ และอยากออกเป็นส่วนหนึ่งของการมาแสดงพลังในวันนี้
นอกจากนี้ บางคนยังสะท้อนว่า ต้องการให้รัฐบาลเด็ดขาดและทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาได้เร็วและดีกว่านี้ รวมถึงยังไม่แน่ใจว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) วันที่ 4-7 ส.ค.2568 นี้ จะมีประเด็นอะไรที่เป็นข้อสรุปที่ดีต่อไทยในฐานะประเทศที่ถูกกัมพูชาเริ่มยิงใส่ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดชุมนุมวันนี้ภาพรวม คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่มีแกนนำหลายคน คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายพิชิต ไชยมงคล นายนิติธร ล้ำเหลือ ยังยืนยันเป้าหมาย 3 ข้อเรียกร้องหลัก ได้แก่ 1.เรียกร้อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2.พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และ 3.เพื่อแสดงพลังปกป้องอธิปไตยและส่งกำลังใจให้ทหารที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา
สำหรับการจัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ วันนี้ เป็นครั้งที่สอ งต่อจากการจัดชุมนุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2568 ซึ่งวันนี้จะเริ่มต้นเวลา 09.00-21.00 น. โดยมีการประสานตำรวจมาตั้งจุดคัดกรองเข้าพื้นที่ชุมนุม ทั้ง4 ทิศ ของอนุสาวรีย์ชัยฯ และจัดจอ LED ไว้รอบ 4 ทิศ เช่นกัน
ภายในพื้นที่ชุมนุม ได้ตั้งเวทีหลักอยู่บริเวณ เกาะกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ หันหน้า ออกทางฝั่งถนนพหลโยธิน โดยทีมงานได้เข้ามาติดตั้งเวทีปราศรัยและกั้นแนวพื้นที่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกัน ยังได้ประสานให้ความร่วมมือกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อแบ่งพื้นที่ถนนไว้ 1 ช่องจราจร เพื่อทำเป็นเส้นทางฉุกเฉินทางการแพทย์โดยเฉพาะ และมีแนวรั้วกั้นชัดเจน ต่างแตกจากการชุมนุมคราวที่แล้ว
นอกจากนี้ การจัดชุมนุมวันนี้ ยังเปิดรับบริจาคสิ่งของจากประชาชน พร้อมจัดรถบรรทุก 2 คันเพื่อขนส่งสิ่งของบริจาคไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเที่ยวแรกจะออกเดินทางเวลา 18.00 น.วันนี้
ขณะที่มาตรการรับมือจากภาครัฐ ด้านการดูแลความปลอดภัย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เตรียมพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยคาดว่า การจราจรบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะติดขัดอย่างหนักในช่วงใกล้เวลา 12.00 น. มีการแนะนำเส้นทางหลีกเลี่ยงไว้หลายเส้นทาง เช่น ถ.พหลโยธิน ถ.ดินแดง และถ.พญาไท พร้อมยืนยันว่าเบื้องต้นจะยังไม่ปิดการจราจร
ด้าน บช.น. แจ้งประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่เวลา 12.00 - 21.00 น. เนื่องจากมีการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อาจส่งผลกระทบต่อการจราจรโดยรอบ พร้อมแนะนำเส้นทางหลีกเลี่ยงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ดังนี้
ถนนพหลโยธิน ขาเข้า
- เลี้ยวเข้าซอยดินแดง 1 ไปออกถนนดินแดง
- หรือกลับรถบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. สนามเป้า ไปยังถนนพหลโยธินขาออก / ซอยพหลโยธิน 2 / ซอยพหลโยธิน 5
ถนนดินแดง ขาเข้า
- เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชปรารภ (แยกสามเหลี่ยมดินแดง) หรือเลี้ยวซ้ายเข้าซอยราชวิถี 3 → ขวาเข้าซอยรางน้ำ
ถนนพญาไท ขาออก
- เลี้ยวซ้ายเข้าซอยโยธี ไปยังถนนพระราม 6
- หรือเลี้ยวซ้ายเข้าซอยโยธี-ขวาซอยราชวิถี 15- ซ้ายไปแยกตึกชัย
อ่านข่าว : พม.เร่งทำเอกสารผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ 4 จว.ชายแดน พบจำนวนมากต้องการความช่วยเหลือ
“ฟาสแทร็ค” ม.144 สอย “พิเชษฐ์” ครม.อุ๊งอิ๊งค์-สส.-สว.ลุ้นคิวต่อไป
ทั่วไทยฝนน้อย อ่าวไทย-อันดามัน คลื่นสูงในพื้นที่มีฝนฟ้าคะนอง