ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"สหรัฐ" ปรับนโยบายกลาโหม

"สหรัฐ" ปรับนโยบายกลาโหม

ผู้นำสหรัฐประกาศการตัดสินใจครั้งสำคัญในการปรับลดกองทัพให้มีขนาดเล็กลง แต่ยืนยันว่าแสนยานุภาพจะยังคงเหนือกว่าชาติอื่นๆ ในโลก รวมทั้งปรับยุทธศาสตร์มาให้ความสำคัญกับพื้นที่ในแถบเอเชีย-แปซิฟิกยิ่งขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มอกงว่าเพื่อเป็นการถ่วงดุลย์อำนาจกับจีน

เพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังนายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดี ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ของกองทัพอเมริกัน เรือยูบรรทุกเครื่องบินเอสเอสอับราฮัม ลินคอล์น และเรือบรรทุกเครื่องบินเคป เซนต์ จอร์จ ก็เดินทางถึงประเทศไทย และเทียบท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ในการเยือน เพื่อแสดงออกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน

แม้การเทียบท่าของเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 2 ลำนี้จะมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ทหารเรือได้พักผ่อน แต่ พล.ร.อ.ทรอย ชูมัคเกอร์ ผู้บัญชาการกองเรือจู่โจมที่ 9 กองทัพเรือสหรัฐ กล่าวว่า ในปัจจุบันภารกิจใหม่ของทหารที่ประจำการในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และมองว่าการกลับเข้ามาให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกทั้งทางการทหาร และการทูต ถือเป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลและเป็นการดำเนินยุทธศาสตร์ที่ดี เพราะภูมิภาคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งของโลก

เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้านนโยบายกลาโหม คือการทำให้กองทัพมีขนาดเล็กลง แต่ยืนยันว่ากองทัพสหรัฐ จะยังคงมีแสนยานุภาพเหนือกองทัพใดในโลก คงความคล่องตัว พร้อมรับสถานการณ์ และพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ

รวมทั้งยังคงเน้นย้ำเรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย ขัดขวางการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ ปกป้องมาตุภูมิ และขัดขวางรวมทั้งปราบปรามการกระทำที่ก้าวร้าวของปรปักษ์ แต่จะยกเว้นเรื่องทำการรบในระดับสงคราม หรือเข้าร่วมในความขัดแย้งอันยืดเยื้อเช่นสงครามอิรัก และสงครามอัฟกานิสถาน และที่สำคัญคือสหรัฐจะกลับมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิกมากขึ้น

ด้านเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับการสนับสนุนทางการทหารจากสหรัฐ และเป็นพันธมิตรสำคัญแสดงการสนับสนุนยุทธศาสตร์ใหม่ด้านการทหารของสหรัฐ ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นว่าสหรัฐทำตามคำมั่นว่าจะให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ และจะเป็นประโยชน์ต่อชาติในภูมิภาคทั้งทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง รวมทั้งจะช่วยสร้างเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี

นักวิเคราะห์มองว่ายุทธศาสตร์ใหม่ของกองทัพสหรัฐแสดงให้เห็นว่าสหรัฐให้ความสำคัญกับศักยภาพของกองทัพเรือ และกองทัพอากาศมากยิ่งขึ้น เพื่อถ่วงดุลย์กับคู่แข่งอย่างจีน และข่มขวัญชาติที่เป็นปฏิปักษ์อย่างอิหร่าน