กรุงเทพมหานครเตรียมตั้งชุดตรวจสอบอาคารจำนวน 50 ชุด
หลังการเข้าตรวจหาสาเหตุเพลิงไหม้บริเวณห้องจัดเลี้ยง ชั้น 4 ของโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว กรุงเทพ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียชีวิต 1 คน และมีนักท่องต่างชาติได้รับบาดเจ็บอีก 21 คน แม้ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ แต่เจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ตรวจพบว่าสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการสำลักควันไฟเป็นผลมาจากบันไดทางขึ้นอาคารไม่มีประตูกั้นระหว่างชั้น ทำให้ไฟที่กำลังไหม้ พรม ฝ้าเพดาน ของห้องจัดเลี้ยงเกิดเป็นกลุ่มควันลอยขึ้นไปยังชั้นอื่นๆ อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงแรมแห่งนี้มีบันไดหนีไฟเพียงด้านเดียว ทำให้นักท่องเที่ยวที่พักอยู่ด้านริม ติดกับทางตันของอาคาร ต้องทุบกระจกปีนหนีออกไปอยู่นอกระเบียง ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นการก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าโรงแรมแห่งนี้ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารถูกต้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 หรือไม่
ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 และมีการขอดัดแปลงในปี 2536 เป็นอาคารสูง 17 ชั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีสปริงเกอร์ ขณะที่ฝ้าเพดานอยู่ในสภาพไม่สูงมากนัก คาดว่าอาจจะมีการลักลอบต่อเติมเกิดขึ้น จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา เขตคลองเตย ขอตรวจสอบแบบแปลนจากเจ้าของว่ามีการต่อเติมดัดแปลงถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบเป็นการดัดแปลงที่ไม่ได้อยู่ในแบบแปลน หรือดัดแปลงหลังการยื่นแบบ ก็จะมีความผิด
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครเตรียมตั้งชุดตรวจสอบอาคารจำนวน 50 ชุด ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ และผู้แทนเขตลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารทั้งที่สร้างก่อน และหลังมีพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 ทั่วกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ทุกอาคารต้องได้รับการตรวจสอบมาตรฐานตัวอาคาร รวมทั้งใบอนุญาต
ขณะเดียวกัน เตรียมเสนอสภากรุงเทพมหานครกำหนดบทลงโทษกับเจ้าของอาคารในกรณีที่ยื่นแบบแปลนแล้วไม่ดำเนินการตามแบบแปลน พร้อมกันนี้ จะเชิญภาคเอกชนที่เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบอาคารด้วย โดยกำหนดให้วันที่ 1 ตุลาคม นี้ ต้องมีการยื่นแบบต่อเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบ โดยตั้งเป้าให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้
สำหรับโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว นักท่องเที่ยวที่เข้าพักส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย สำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว เกิดขึ้นหลังเหตุเพลิงไหม้ อาคารฟิโก้ ซอยสุขุมวิท 21 เพียง 6 วัน และอยู่ระหว่างที่กรุงเทพมหานครกำลังเร่งหาวิธีป้องกันเพลิงไหม้ตึกสูง
ด้านนายประกิต ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นอุบัติเหตุ และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว โดยเชื่อว่าโรงแรม หรืออาคารสูงในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่สร้างก่อน พ.ศ. 2535 ซึ่งยังไม่มีพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 น่าจะทำการติดตั้งระบบเตือนภัย และสปริงเกอร์ตามที่กฎหมายกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว