สธ.เรียกเก็บยาซูโดอีเฟดรีนคืนภายใน 30 วัน ฝ่าฝืนทั้งจำทั้งปรับ
กระทรวงสาธารณสุขประชุมชี้แจงมาตรการควบคุมยาซูโดอีเฟดรีน ให้กับสถานพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชน คลินิก ร้านขายยา รวมถึงผู้ผลิต ผู้นำเข้า หลังประกาศยกระดับยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทสอง ซึ่งมีผลบังคับใช้วันนี้ (4 เม.ย.) เป็นวันแรก โดยกำหนดให้จัดส่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม เฉพาะสูตรผสมยาพาราเซตามอล คืนผู้ผลิต หรือ ผู้นำเข้า ภายในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ หากครบ 30 วันแล้วยังตรวจพบว่า มีการครอบครองยาชนิดนี้ จะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ผู้ผลิตและผู้นำเข้า ก็ต้องรายงานตัวเลขการครอบครองยาชนิดนี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทราบ
สำหรับประชาชน ที่มียาพาราเซตามอล สูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ไว้ในครอบครองก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูตามความเหมาะสม แต่หากพบมีการถือครองจำนวนผิดปกติ ก็จะต้องมีโทษทั้งจำทั้งปรับ เช่นเดียวกัน โดยหลัง 30 วันต่อจากนี้ หากพบมีการครอบครองยาชนิดนี้ ที่คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม มีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และถ้าเกิน 5 กรัม มีโทษจำคุก 5-20 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท
ส่วนขั้นตอนหลังเรียกเก็บยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมเรียบร้อยแล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะประสานให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดทำคลังข้อมูลกลาง ในการเบิกจ่ายยาชนิดนี้ ให้ช่วยให้การควบคุมการใช้ยา และตรวจสอบทำได้ง่ายขึ้น โดยหลังจากนี้ ห้ามร้านขายยาจำหน่ายยาที่ผสมสารซูโดอีเฟดรีนโดยเด็ดขาด
ขณะที่สถานพยาบาลของรัฐต้องจัดทำรายงานการเบิกจ่ายยาชนิดนี้ส่งให้ อย. ทุกเดือน ส่วนคลินิก และสถานพยาบาลเอกชน นอกจากต้องจัดทำรายงานการใช้ยาแล้ว ยังต้องขอใบอนุญาตการครอบครองยาชนิดนี้จาก อย. อีกด้วย