พาณิชย์ตั้งเป้าเพิ่มการค้าพม่า 3เท่าตัว ทุ่ม 20 โครงการหนุนส่งออก-นำเข้ายั่งยืน
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเดินทางไปเยือนพม่าระหว่างวันที่ 6 -7 เมษายนนี้ว่า ไทยและพม่าได้ตั้งเป้าหมายการขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นเป็น 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ3 เท่าตัว เป็น ภายในปี 2558 ซึ่งเป็นปีของการเข้าเป็นประชาคมอาเซียน(เออีซี) โดยปีนี้ไทยตั้งเป้าการส่งออกไปพม่าเพิ่มขึ้น 5,692 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 171,000 ล้านบาท)หรือเพิ่มขึ้น 100% จากปี54 ที่มีมูลค่าส่งออก 2,846 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(85,877 ล้านบาท)เพิ่มกว่า 37% ขณะที่ไทยนำเข้าจากพม่ามีมูลค่า 3,268 ล้านเหรียญสหรัฐฯ( 99,725 ล้านบาท)เพิ่มกว่า 16 %
“กระทรวงพาณิชย์ได้วางนโยบายมุ่งเน้นการขยายการค้าระหว่างไทยและเพื่อนบ้านอาเซียนให้มากขึ้น โดยเน้นทั้งสองทาง ไม่เฉพาะแต่การส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากรัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญและจำเป็นของการรักษาสมดุลทางการค้า และสร้างพันธมิตรที่ดีอย่างยั่งยืน”นายภูมิ กล่าว
ทั้งนี้ พม่าเปิดประเทศเพื่อต้องการพันธมิตรในด้านการค้า-ลงทุน และแสดงให้เห็นถึงความจริงจังจริงใจที่จะร่วมมือกันในหลายๆ ระดับทั้งภาครัฐและเอกชนนอกจากนี้พม่าจะต้องเร่งลดอุปสรรคการค้าจากข้อกำหนด กฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศที่ยังไม่ชัดเจน ปรังปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ต้นทุนโลจิสติกส์ที่ยังสูงกว่าไทยถึง 20%ต้นทุนแฝง เช่น ภาษีท้องถิ่นและอื่นๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นต้น หลังจากที่มีความชัดเจนเรื่อง ค่าเงินที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงลอยตัวแบบมีการจัดการตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ประเด็นต่างๆ พม่าคงต้องมีคำตอบให้กับคู่ค้า รวมถึงความคาดหวังของรัฐบาลพม่าว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านไป จะส่งผลให้ชาติมหาอำนาจผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป(อียู)จะมีการพิจารณาภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
นางนันทวัลย์ สกุลตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กรมฯสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนในอาเซียน รวมถึงพม่าด้วย ซึ่งปีนี้มีกว่า 20 โครงการที่เจาะตลาดแบบมีนัยสำคัญ แต่หากจะมองในภาวะการณ์ปรับเปลี่ยนของพม่า เพื่อเข้าสู่เออีซีหรือยังนั้น ขณะนี้จะยังไม่เห็นความชัดเจน เนื่องจากโดยภาพรวมพม่า ได้ปรับตัวและเตรียมการประเทศของตัวเอง เพื่อรองรับการให้นานาชาติยอมรับตัวพม่าเองเป็นเรื่องใหญ่กว่า อาทิ ปี 2556 พม่าจะเป็นเจ้าภาพเอเซียนเกมส์ ปี 57 พม่าจะเป็นประธานอาเซียน และปี 58 พม่าจะเข้าร่วมเออีซี
“แรงจูงใจที่ต่างประเทศ รวมถึงไทยจะเข้าไปลงทุนในพม่าจะอยู่ภายใต้ปัจจัยบวกด้านแรงงานราคาถูก พม่าจะได้รับสิทธิจีเอสพีจากหลายประเทศและได้อย่างต่อเนื่อง ความต้องการสินค้าบริโภคอุปโภคจำนวนมาก พื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจที่พม่าขยายตัวอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ความต้องการที่อยู่อาศัย มีอัตราการขยายตัวมากกว่า 70% พร้อมๆ กับรายได้เข้าจากการท่องเที่ยว เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศจำนวนมากสำหรับผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้นกับไทย คือ แรงงานพม่าจะเข้าไทยมากขึ้น อันเนื่องมาจากค่าแรงงานของไทยที่สูงกว่า” นางนันทวัลย์ กล่าว
สำหรับการส่งออกสินค้าไทยไปพม่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้(มกราคม-กุมภาพันธ์)มีมูลค่าส่งออก 483 ล้านเหรียญ ( 15,092 ล้านบาท ) ขยายตัวเพิ่มขึ้น13% โดยสินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2%( 2,459 ล้านบาท )รองลงมาเป็นสินค้าเครื่องดื่ม ปูนซิเมนต์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ เป็นต้น
ด้านสินค้าไทยนำเข้าจากพม่ามีมูลค่า 260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 8,245 ล้านบาท) ลดลง40.2% โดยสินค้านำเข้าสำคัญ ก๊าซธรรมชาติ 219 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (6,951 ล้านบาท) ลดลง 45.7 %รองลงมาเป็นไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ กล้อง เลนส์และอุปกรณ์การถ่ายรูป ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ สัตว์มีชีวิตไม่ได้ทำพันธ์ เป็นต้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง: