ตำรวจรื้อคดีปล้นแบงก์ทหารไทย จ.นครสวรรค์ปี 53 คาดเชื่อมโยงคดีปล้นรถขนเงิน จ.สิงห์บุรี 2 ล้านบาท

หนึ่งในผู้ต้องหาคดีปล้นรถขนเงินที่จังหวัดสิงห์บุรี ติดต่อเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) อีก 1 คน ขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ตรวจสอบรถต้องสงสัยในคดีปล้นเงินธนาคารทหารไทย 8 ล้านบาท เมื่อปี 2553 หลังพบว่า เป็นรถยนต์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับรถที่ใช้เป็นพาหนะในคดีปล้นรถขนเงิน ธนาคารกสิกรไทย ที่จังหวัดสิงห์บุรี

รถกระบะ 4 ประตูสีบรอนซ์ ที่ขับติดตามรถขนเงิน บริษัทกรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด ก่อนเกิดเหตุปล้นเงิน 8 ล้านบาท หน้าธนาคารทหารไทย สาขาถนนถนนเอเชีย จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2553 เป็นหลักฐานที่ตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ กำลังตรวจสอบความเชื่อมโยง ในคดีปล้นรถขนเงินหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายกัน

พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า หลังพบรถต้องสงสัยได้สั่งให้ตรวจสอบการจดทะเบียนรถของกลางในคดีปล้นรถขนเงินที่จังหวัดสิงห์บุรี มีการจดทะเบียนก่อน หรือ หลังคดีปล้นธนาคารทหารไทยปี 2553 และก่อนหน้านี้มีการนำไปใช้ในพื้นที่จังหวัดใด รวมทั้งตรวจสอบว่า มีการเชื่อมโยงกับคนกลุ่มใดใน จ.นครสวรรค์ ส่วน ด.ต.นารายณ์ ทิพย์ปรีชาธร เหลืออีก 3 วันก็จะครบขาดงานเกิน 15 วัน ซึ่งจะถูกไล่ออกจากราชการ

ขณะที่ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รายงานให้ทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) นายศิวัช สารี 1ในผู้ต้องหาปล้นรถขนเงินที่ จ.สิงห์บุรี จะเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในเวลา 11.00 น.

สำหรับการติดตามตัว พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไทรงาม จ.กำแพงเพชร และ ด.ต.นารายณ์ ทิพย์ปรีชาธร สังกัดตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ที่ยังหลบหนี ชุดสืบสวนคาดว่า ยังหลบหนีอยู่ในประเทศ ซึ่งชุดที่ติดตามก็เร่งหาข่าวตามจุดที่คาดว่าจะหลบซ่อนตัว