ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.วัดคะแนนนิยมรัฐบาล

ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.วัดคะแนนนิยมรัฐบาล

ผลสรุปจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า ส.ส.ใน 5 เขต ทั้ง 2 วันปรากฏว่า กรุงเทพมหานครมีผู้มาใช้สิทธิ์ล่วงหน้าน้อยที่สุดประมาณ 4,000 คน ขณะที่รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าระบุว่า ผลเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งระหว่างรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และยังเป็นการเชื่อมโยงไปยังกรอบเวลาที่เหมาะสมแก่การยุบสภาด้วย
สัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ใน 5 เขต จะเป็นการต่อสู้กันเพื่อหยั่งคะแนนเสียงนิยมระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน หลังพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครลงทุกเขตเลือกตั้ง แข่งขันกับผู้สมัครจากพรรครัฐบาล ขณะที่พื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่จะแข่งขันกับผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดนครราชสีมา

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์คาดหวังคะแนนจากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครกรุงเทพมหานคร เขต 2 ซึ่งในวันนี้ (6 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง พร้อมย้ำถึงความมั่นใจของฐานเสียงในพื้นที่ แต่ก็ยังเป็นห่วงเรื่องการใช้สิทธิ์ของประชาชน

รศ.วุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า วิเคราะห์การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการวัดคะแนนการบริหารงานของรัฐบาลที่ใกล้ครบวาระ และยังเป็นการเชื่อมโยงไปยังกรอบเวลาที่เหมาะสมแก่การยุบสภาด้วย

หากพิจารณาแต่ละเขตเลือกตั้ง ทั้งกรุงเทพมหานคร จังหวีดนครราชสีมา และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล้วนเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องรักษาพื้นที่ให้ได้ ขณะที่พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายที่จะรักษาพื้นที่เดิม คือจังหวัดขอนแก่น และเพิ่มพื้นที่ใหม่ในจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดนครราชสีมา

ขณะเดียวกันการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาทั้ง 2 วัน จังหวัดสุรินทร์มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากที่สุดจำนวน 17,830 คน ขณะที่ในกรุงเทพมหานคร มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า 4,124 คน คิดเป็นร้อยละ 1.25 ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งต้องรอวันเลือกตั้งจริง 12 ธ.ค.นี้ ว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์จะมีผลต่อคะแนนแพ้ชนะในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้หรือไม่