คปบ.สั่งลงโทษ
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานคณะกรรมการฝ่ายป้องกันและปราบรามการประพฤติมิชอบ หรือ คปบ. นำทีมตำรวจที่ชำนาญในการใช้ เครื่องจับเท็จ อธิบายวิธีการทำงาน และยืนยันผลการทดสอบที่เคยเป็นคดีความต่างๆ มาแล้ว ก่อนจะปิดห้องประชุมลับเพื่อพิจารณาความผิดของ มานพ ปานสาคร ผู้ตัดสินในเกมปัญหาระหว่างชัยนาทกับบีอีซี เทโรศาสนที่ไม่ผ่านผลตรวจเครื่องจับเท็จ
ที่ประชุมหารือกันกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้น นายถิรชัย วุฒิธรรม ในฐานะโฆษกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดแถลงข่าวว่า สภากรรมการมีมติรับข้อเสนอของ พล.ต.อ.วรพงษ์ ในการระบุฐานความผิดของผู้ตัดสินที่มีความประพฤติมิชอบ 3 ข้อ คือ
ข้อที่ 1 ถ้าทำหน้าที่บกพร่อง มีโทษพักการทำหน้าที่ไม่เกิน 1 ปี ข้อที่ 2 ถ้ามีความผิดมีมูลเหตุทำให้เกิดความบกพร่องมีโทษไม่เกิน 10 ปี และข้อที่ 3 ทำหน้าที่บกพร่องและมีหลักฐานไม่สุจริตมีโทษตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ทั้งนี้สามารถยืนอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 15 วัน
สำหรับกรณีของมานพ ปานสาคร ที่มีการเสนอข้อมูลว่าไม่ผ่านการตรวจเครื่องจับเท็จ สภากรรมการมีมติว่าเข้าข่ายฐานความผิดที่ 2 สั่งลงโทษห้ามลงทำหน้าที่ 4 ปี แต่สามารถยื่นอุทธรณ์ใน 15 วัน ซึ่งฐานความผิดต่างๆ จะเป็นบรรทัดฐานในการลงโทษผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ผิดพลาดต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ตัดสิน มานพ ปานสาคร ลงทำหน้าที่ในเกมสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 คู่ระหว่าง ชัยนาท เอฟซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บีอีซี เทโรศาสน โดยในเกมดังกล่าวมีจังหวะปัญหาที่ทีมเยือนโขกบอลเข้าประตูทะลุตาข่าย กระดอนกลับออกมา แต่ผู้ตัดสินทั้ง 2 ราย กลับไม่ให้เป็นประตู จากเหตุการณ์ดังกล่าวสมาคมฟุตบอลฯได้ตัดสินใจส่งเรื่องต่อไปยังคปบ. เพื่อสืบสวนหาเหตุที่แท้จริง