ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ความหมายและตัวตนของ “อาชีพเก่าแก่” ที่ผู้คนอาจหลงลืม


Lifestyle

อธิเจต มงคลโสฬศ

แชร์

ความหมายและตัวตนของ “อาชีพเก่าแก่” ที่ผู้คนอาจหลงลืม

https://www.thaipbs.or.th/now/content/241

ความหมายและตัวตนของ “อาชีพเก่าแก่” ที่ผู้คนอาจหลงลืม

ท่ามกลางยุคสมัยที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ผู้คนต่างยึดอาชีพอันหลากหลาย มีอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ในมุมกลับ ก็มีหลากหลายอาชีพที่ถูกกลืนหายไปจากสังคม อาชีพเก่าแก่หายากเหล่านี้นับวันจะยิ่งหายไป แต่ในมุมของผู้ที่ยึดอาชีพเหล่านั้นเพื่อมีชีวิต นิยามของอาชีพและการทำงานจึงไม่ใช่เพียงหารายได้ แต่คือความหมายของชีวิต
วันนี้ เราขอชวนทุกคนมาดูเหล่าอาชีพเก่าแก่หายากที่ผู้คนอาจหลงลืมว่าในมุมหนึ่งของสังคมยังคงมีอาชีพเหล่านี้อยู่
 

 “ลุงสมชาย กองศรี” ยึดอาชีพช่างวาดป้ายคัตเอาต์หนัง

“คนวาดโปสเตอร์หนัง” คนสุดท้ายแห่งภาคอีสาน

ท่ามกลางยุคสมัยแห่งหนังและซีรีส์ที่ฉายในระบบสตรีมมิ่ง ผู้คนดูหนังเสพความบันเทิงอยู่กับบ้าน
ว่ากันว่า โรงหนังว่าตายแล้ว ยิ่งชวนให้สงสัยแล้วคนที่ประกอบอาชีพเก่าก่อนอย่างคนวาดโปสเตอร์หนังติดตามโรงหนังละ จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ?
กว่า 40 ปี “ลุงสมชาย กองศรี” ยึดอาชีพช่างวาดป้ายคัตเอาต์หนังให้กับโรงภาพยนตร์ซุ่นเฮงพลาซ่า อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ และในวัย 64 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวของชีวิตมามากมาย หลายคนล้มหายตายจากไปจากวงการ เหลือเขาเป็นศิลปินคนสุดท้ายของภาคอีสานบนเส้นทางนี้

แม้โลกจะเผชิญกับสถานการณ์โควิด ที่ทำให้ผู้คนเข้าโรงหนังน้อยลง แม้โลกจะอยู่ในกระแสของสตรีมมิ่งดูหนังผ่านเน็ต ที่ยิ่งทำให้พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไป แต่ลุงสมชายก็ยังคงยึดฝีแปลงเป็นอาชีพ ตวัดไปบนผืนผ้าใบรังสรรค์โปสเตอร์หนัง หลายต่อหลายเรื่องออกมา ตกแต่งประดับเพื่อบอกประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของหนังเรื่องดังที่กำลังเข้าฉายอยู่ในโรง
“คนจะลำบากจะสบายก็นี่แหละ (เทคโนโลยี) มันจะสะดวกเกินไป บางอาชีพก็ล้มสลายหายไป เหมือนหนังสือพิมพ์ หนังสือบันเทิงที่เคยซื้อมาอ่านก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลง พอลดจำนวนลงก็ค่อย ๆ หายไป เหมือนงานของผม"

แม้รายได้จะลดลงในหลายช่วงชีวิต แต่การได้ดำรงชีวิตอยู่ให้ได้ด้วยสิ่งที่รักนั้นดูจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าสำหรับชีวิตศิลปินอย่างเขา ติดตามเรื่องราวของศิลปินผู้รังสรรค์โปสเตอร์คนสุดท้าย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยได้ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน คนวาดหนัง

 

ลุงยอด ถวิล มานะศิริ ช่างสานใบลานพเนจร

พเนจรชีวิต “ช่างสานใบลาน (ใบตาล)” งานฝีมือในราคาหลักสิบ

ของเล่นจากใบลาน(หรือใบตาล) น่าจะเป็นของเล่นโบราณเกินกว่าจะยังมีอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ในมุมตลาดหนึ่ง ณ แห่งหนหนึ่งของประเทศไทย ยังมีใครคนนึงยึดอาชีพสานใบลานเป็นรูปแมลงต่าง ๆ เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพอยู่
และเงินเหล่านี้หาเลี้ยงชีพให้กับ 2 คน 1 หมากับซาเล้ง ที่เดินทางไปด้วยกันทุกที่คือความสุขของชีวิต ซึ่ง 2 คนนั้นประกอบไปด้วย ลุงยอด ถวิล มานะศิริ และ ป้าสุ สุวารี ทองขำ

ลุงยอดช่างสานใบลานแม้มีตาเพียงข้างเดียว และเป็นผู้พิการปากแหวงเพดานโหว่มาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ใช้ความสามารถที่มียึดอาชีพสานใบลานให้กลายเป็นสัตว์ต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน ตั๊กแตน ปลา ไก่ นก ผีเสื้อ แมลงปอ ทักษะการสานใบลานทั้งหมดของลุงยอดมาจากการครูพักลักจำทั้งสิ้น การสานสัตว์หลากหลายชนิด สานได้อย่างรวดเร็วแต่ได้ชิ้นงานก็ออกมาประณีตเกิดจากการทำซ้ำในทุกวันเพื่อแลกเงินเพียงหลักสิบเท่านั้น โดยลุงยอดจะพเนจรขายตามตลาด ตามสถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ชลบุรี จันทบุรี ไปถึงสุดขอบชายแดนอรัญประเทศ

งานค้าขายของลุงยอดแม้จะมีรายได้น้อยนิดแต่ก็มีหวังอันยิ่งใหญ่ หวังให้เงินเพียงพอจะใช้กินอยู่ กำไรแท้จริงของงานคือกำไรของชีวิต ชีวิตที่ทำงานไปด้วย ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกันทั้งครอบครัวอันประกอบไปด้วย ลุงยอด ป้าสุ หมาดำและซาเล้ง เรื่องราวชีวิตช่างสานใบลานถึงตอนนี้จะดำเนินไปอย่างไร รับชมได้ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ให้รักนำทาง

 

ลุงชะอ้อน - ทอง ศรีจันทร์ ช่างทำพลุ วัย 67 ปี

“ช่างทำพลุ” คนประดับฟ้า

พลุที่ส่งเสียงดังก้องเรียกให้ผู้คนหันมอง เมื่อมองก็เห็นแสงส่องประกายงดงามไปทั่วผืนฟ้ายามค่ำคืน เบื้องหลังความงดงามเหล่านั้น หากยุคใหม่ เราคงคิดกันว่ามีเครื่องยิงพลุล้ำสมัยอยู่เบื้องหลัง ทว่าหลายงานพลุดัง เช่น งานพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี มีช่างทำพลุสูงวัย ยึดมั่นในความรักต่อศิลปะการทำพลุ และยังคงรักษาภูมิปัญญาการทำพลุแบบดั้งเดิมไว้

ช่างทำพลุคนนั้นคือ “ลุงชะอ้อน - ทอง ศรีจันทร์” ชายสูงวัยอายุ 67 ปี ชาวเพชรบุรีที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองแก่ และยังคงยึดอาชีพทำพลุดอกไม้ไฟ ตะไล ไฟพะเนียงทำมาหากินมาหลายสิบปี จนสามารถส่งเสียให้ลูกเรียนจบ จนแยกย้ายไปมีครอบครัวได้สำเร็จ ทว่าจากความรักในศิลปะการทำพลุไฟกลายเป็นความผูกพันและหวงแหน จึงอยากมีทายาทสืบทอดวิชาความรู้ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต

การสืบทอดส่งต่อศิลปะการทำพลุไปถึงลูกสาวคนเล็กผ่านการฝึกฝน ผ่านบททดสอบของงานเทศกาลใหญ่ประจำปีจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน คนประดับฟ้า

 

ตาเล็ก นำพา คุณตาบัดกรี ช่างปะหม้อคนสุดท้าย

“ช่างปะหม้อ” คนสุดท้าย

หม้อมีรูแค่รูเดียว คงใช้ทำอาหารไม่ได้และอาจจะต้องโยนทิ้ง เพราะโยนทิ้งคงง่ายกว่าจะหาช่างมาซ่อม
ถึงตอนนี้ช่างปะซ่อมหม้ออาจจะเหลือเพียงคนเดียว และเป็นคนสุดท้ายแล้วนั่นคือ “ตาเล็ก นำพา” ในวัย 90 ปี ชาวอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ผู้เป็นที่รู้จักในชื่อ “คุณตาบัดกรี”

เขาขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าแต่เก๋าแล่นไปตามหมู่บ้าน ร้องเรียกลูกค้า “บัดกรีไหม ? บัดกรีไหม ?” หม้อมีรูมากน้อยแค่ไหน กว่า 65 ปีที่เขาปะปิดคืนชีพให้กับหม้อข้าวเครื่องใช้ในราคาหลัก 2 บาทต่อรู และเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น ก็สามารถเปลี่ยนหม้อที่ใช้การไม่ได้กลับมาเป็นหม้อที่ใช้งานได้ดีอีกครั้ง

ชีวิตของตาเล็กแม้อายุ 90 ปีแล้ว แต่ยังคงยึดเอาอาชีพปะรู ปิดซ่อมหม้อเหล่านี้ ทำงานอย่างไม่มีวันหยุดในทุกวันของชีวิต เป็นชีวิตเล็ก ๆ ที่มีคุณค่าช่วยให้เติมเต็มจุดหนึ่งของสังคมให้สมบูรณ์และขับเคลื่อนต่อไปได้ยาวนาน นานจนได้ชื่อเป็นคุณตาสี่แผ่นดิน

ติดตามชีวิตยืนยาวแต่ไม่เคยหยุดจากการงานของตาเล็กได้ที่รายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน คุณตาสี่แผ่นดิน

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเป็นธรรมดาของโลก หลากอาชีพหลายชีวิตเก่าแก่ย่อมต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ถาโถม และผู้ยึดมั่นในอาชีพอย่างเป็นชีวิตเท่านั้นที่เผชิญความเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยตัวตนเดิมและแท้จริงในความหมายและคุณค่าของตัวเองท่ามกลางปัจจุบันสืบไป

ติดตามรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ย้อนหลังทุกตอนได้ที่ www.thaipbs.or.th/Real

แท็กที่เกี่ยวข้อง

อาชีพอิสระชีวิตจริงยิ่งกว่าละครผู้สูงอายุผู้สูงวัยอาชีพเก่าแก่
อธิเจต มงคลโสฬศ

ผู้เขียน: อธิเจต มงคลโสฬศ

เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล ไทยพีบีเอส สนใจเนื้อหาด้านสุขภาพจิต สาธารณสุข และความยั่งยืน รวมถึงประเด็นทันกระแสที่มีแง่มุมน่าสนใจซ่อนอยู่

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด