ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อจำนวนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี พ.ศ. 2567 มีจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ราว 13 ล้านคน หรือร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ตัวเลขนี้จะทะยานขึ้นเกิน 20 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรไทยทั้งหมด
เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ริเริ่ม “โครงการผู้บริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ แก้วิกฤติประชากร” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิ” ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้สูงวัยในชุมชนเสมือนเป็นลูกหลาน คอยปกป้องสิทธิ ดูแลสุขภาพ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พัฒนาระบบการปฏิบัติงานสำหรับผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ “Nirun for community” หรือระบบ “นิรันดร์” เป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงานของผู้บริบาล
“นิรันดร์” ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุ สร้างฐานข้อมูลเชิงนโยบาย
ดร.ณัฐนันท์ ทัดพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการขับเคลื่อนแผนงานระบบสนับสนุนการเข้าถึงสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ สวทช. กล่าวว่า สวทช. พัฒนาระบบ “นิรันดร์” ซึ่งเป็นระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการสถานดูแลผู้สูงอายุ เพื่อสนับสนุนโครงการบริบาลสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน โดยเป็นเครื่องมือช่วยผู้บริบาลในการทำงาน เช่น บันทึกข้อมูลผู้สูงอายุรายบุคคล ติดตามกิจกรรมและการดูแลในแต่ละวัน สรุปผลสุขภาพของผู้สูงอายุในโครงการ และสรุปผลการทำงานของผู้บริบาล
ระบบนิรันดร์สามารถประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ เช่น อายุ โรคประจำตัว คะแนนประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน (Activities of Daily Living: ADL) และแสดงผลเป็นแผนการดูแลเบื้องต้น (Recommended Care Plan) หรือข้อแนะนำในการดูแล เช่น ควรให้กายภาพบำบัด ควรเฝ้าระวังโภชนาการ เพื่อให้ผู้บริบาลนำไปปรับใช้กับผู้สูงอายุแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ ข้อมูลจากระบบยังใช้ได้ในระดับนโยบาย โดยกระทรวง พม. สามารถนำไปกำหนดยุทธศาสตร์การดูแลผู้สูงอายุในภาพรวมของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ สวทช. ในมิติลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จากการพัฒนาแพลตฟอร์มสนับสนุนการเข้าถึงสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (AI-C) ตามกลยุทธ์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน (S&T Implementation for Sustainable Thailand)
เทคโนโลยีคู่ความห่วงใย หัวใจแห่งการดูแล
ปัจจุบันกรมกิจการผู้สูงอายุนำระบบนิรันดร์ไปให้ผู้บริบาลใช้ในการบันทึกข้อมูลการดูแลผู้สูงอายุในหลายพื้นที่ เช่น ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) องค์การบริหารส่วนตำบลนิคมกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
นายธาวินทร์ ลีลาคุณารักษ์ ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ องค์การบริหารส่วนตำบลนิคมกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ระบบนิรันดร์ช่วยให้ผู้บริบาลทำงานสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งในการบันทึกข้อมูลรายวัน ติดตามการดูแลผู้สูงอายุแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครอบคลุมในทุกมิติ ระบบยังช่วยให้ค้นหาข้อมูลผู้สูงอายุได้สะดวกและรวดเร็วด้วยโทรศัพท์มือถือ แทนการค้นหาจากเอกสารกระดาษแบบเดิม และระบุพิกัดที่อยู่ของผู้สูงอายุได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดเวลาในการลงพื้นที่ และที่สำคัญ ข้อมูลที่บันทึกไว้สามารถนำไปวิเคราะห์วางแผนการดูแลรายบุคคลและรายพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะด้านการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ ซึ่งช่วยให้ผู้บริบาลสามารถประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยการผสานระหว่าง “ผู้บริบาลที่ดูแลด้วยใจ และ “นิรันดร์” เทคโนโลยีช่วยดูแลผู้สูงวัย ทำให้ประเทศไทยสามารถยกระดับการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมสร้างฐานข้อมูลเชิงนโยบายที่แม่นยำ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีครอบครัวอยู่ใกล้ ๆ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนและพัฒนาสังคมไทยให้พร้อมรับประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech