ปี 2568 กำลังจะผ่านไป รอบปีที่ผ่านมา มีเรื่องราว ข่าวสาร และเหตุการณ์สำคัญ ๆ เกิดขึ้นมากมาย และนี่คือ Talk of the town หรือ 10 เรื่องดังแห่งปี 2568 ที่ว่ากันว่า เป็นเรื่องที่พูดกันสนั่นปี!

1.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “แผ่นดินไหว และทุจริตตึก สตง.”

ตึก สตง. ที่ถล่มลงมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

28 มีนาคม 2568 เป็นอีกหนึ่งวันที่อยู่ในความนึกคิดของคนไทย กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จุดเกิดเหตุที่ประเทศเมียนมา วัดความรุนแรงได้ราว 7.4 ริกเตอร์ ความรุนแรงส่งผลมายังหลายจังหวัดในประเทศไทย อาทิ เชียงใหม่ นครราชสีมา นครสวรรค์ และภูเก็ต รวมไปถึง กรุงเทพมหานคร ที่อาคารใหญ่ใจกลางเมือง ได้รับแรงสั่นสะเทือน จนผู้คนพากันออกมาภายนอกอาคารเพื่อความปลอดภัย

จากความรุนแรงดังกล่าว ส่งผลให้อาคารหลายหลังเกิดรอยร้าว แต่ที่กลายเป็นความเสียหายขนาดใหญ่ นั่นคือ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ อาคาร สตง. แห่งใหม่ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ณ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจัตุจักร เกิดพังทลายลงมา เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ติดใต้ซากอาคารที่กองพะเนินสูงไม่ต่างจากภูเขาลูกยักษ์

โจทย์ยากครั้งนี้ คือการระดมกู้ซากอาคาร และช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาให้เร็วที่สุด เจ้าหน้าที่กู้ภัย ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญ และรวมถึง “สุนัขกู้ภัย K9” ต่างใช้ความพยายามกับภารกิจครั้งนี้ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปนับเดือน ผลสรุปว่า มีผู้รอดชีวิตเพียง 9 ราย สูญหาย 1 ราย และเสียชีวิตกว่า 95 ราย

ถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ผู้คนทั้งประเทศให้ความสนใจ กระทั่งล่าสุด (อัปเดต ธ.ค.68) หลังการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงของการถล่มลงมาของอาคาร พบว่า อาคาร สตง. ใช้คอนกรีตต่ำกว่ามาตรฐาน รวมทั้งยังใช้เหล็กเสริมไม่ได้ระยะ และใช้แบบก่อสร้างผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้อาคารรับแรงไม่ไหว ทั้งนี้ อัยการมีคำสั่งฟ้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกว่า 23 ราย รวมทั้งยังขยายผลการเอาผิดกรณีขบวนการทุจริตและนอมินีข้ามชาติอีกด้วย

2.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “วงการสงฆ์ร้อน สีกา เงิน และวิกฤตศรัทธา”

อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ “เจ้าคุณแย้ม”

ปี 2568 น่าจะเป็นอีกปีที่มีข่าวคราวในแวดวงพุทธศาสนาเข้าขั้นระดับ Talk of the town ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ “เจ้าคุณแย้ม” เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้กระทำการทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัด โอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์กว่า 300 ล้านบาท

เรื่องราวร้อน ๆ ของวงการสงฆ์ไทยยังระอุต่อเนื่อง เมื่อเกิดข่าวพระสงฆ์กว่า 13 รูป มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา แถมยังเป็นสีกาคนเดียวกันทั้งหมด เธอมีชื่อว่า “สีกากอล์ฟ”

สีกากอล์ฟ

ข่าวเริ่มต้นตั้งแต่ ความสัมพันธ์กับพระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ ตามมาด้วย พระเทพวชิรธีราภรณ์ อดีตรองเจ้าคณะภาค 2 และเจ้าอาวาสวัดพุทธฉาย จ.สระบุรี พระเทพวชิรธีรคุณ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ จ.กรุงเทพฯ พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา พระเทพวัชรสิทธิเมธี อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง อดีตเจ้าคณะ จ.พิจิตร พระเทพปวรเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร จ.กรุงเทพฯ พระราชรัตนสุธี อดีตเจ้าคณะ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก พระปริยัติธาดา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร จ.กรุงเทพฯ พระครูสิริวิริยธาดา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา พระครูศรีรัตนวิเชียร หรือ พระมหายอดเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง จ.พิจิตร พระมหาบุญเลิศ อดีตพระลูกวัด วัดใหม่ยายแป้น จ.กรุงเทพฯ พระมหาทิวากร ดีไพร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร และ พระปลัดสุรพล อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร จ.พิษณุโลก

ตามการรายงานข่าว สีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนสูงถึง 385 ล้านบาทในรอบ 3 ปี ก่อนจะพบหลักฐานการขู่กรรโชกทรัพย์แก่พระสงฆ์ที่มีความสัมพันธ์ด้วย เจ้าตัวถูกดำเนินคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ด้านพระสงฆ์ทั้ง 13 รูป ได้ลาสิกขาทันที รวมทั้งบางรายยังถูกสอบสวนเพิ่มเติมกรณีเส้นทางเงินที่น่าสงสัย

หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

เรื่อง “เงินกับพระ” ยังร้อนแรงได้อีกในปี 2568 แถมยังเป็นกรณีที่ช็อกผู้คนในสังคมไม่น้อย เมื่อมีการเปิดโปงว่า เงินบริจาคที่ประชาชนมอบให้กับ “วัดพระบาทน้ำพุ” สถานที่ที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ HIV มายาวนานหลายสิบปี มีความไม่โปร่งใส โดยพบว่า มีการยักยอกเงินบริจาคของวัด ไปใช้ส่วนตัว และมีการโอนย้ายถ่ายเทอย่างไม่ชอบมาพากล

ตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้เข้าจับกุม อดีตเจ้าอาวาส “หลวงพ่ออลงกต” และ “หมอบี” หรือ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หมอดูชื่อดัง พร้อมยึดทรัพย์คืนวัด มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท อันได้แก่ เงินสด โฉนดที่ดิน ทรัพย์สินมีค่า ฯลฯ พร้อมทั้งยังดำเนินคดีกับทั้งคู่ ในข้อหาฉ้อโกงเงินบริจาควัด ถือเป็นอีกหนึ่งคดีความใหญ่แห่งปีที่สะเทือนวงการพระสงฆ์ไทย และศรัทธาของประชาชน

3.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “คลิปเสียงโทรศัพท์สนั่นเมือง”

ฮุน เซน

ปัญหาสแกมมอร์ ถือเป็นปัญหาใหญ่แห่งปี 2568 โดยเฉพาะเหล่าสแกมเมอร์ข้ามชาติ ที่ไปตั้งฐานบัญชาการยังพื้นที่ตามแนวชายแดน อาทิ ประเทศกัมพูชา เป็นที่มาของการ “ปิดด่าน” เพื่อยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ใช้กัมพูชาเป็นฐาน รวมทั้งใช้มาตรการทางเศรษฐกิจกดดันเพิ่มด้วย

การประกาศปิดด่านพรมแดนไทย-กัมพูชากว่า 18 จุด ส่งแรงกระเพื่อมในเชิงเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ แต่ที่กลายเป็นเรื่องราวระดับ Talk of the town คือ “คลิปเสียงโทรศัพท์” การสนทนาระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย กับ ฮุน เซน ผู้นำของกัมพูชา โดยหลายประโยคของการสนทนา พาดพึงบุคคลที่สาม รวมถึงการการพูดคุยมีความสนิทสนม และไม่ใช่ลักษณะการเจรจาบนพื้นฐานของ “ผู้นำประเทศกับผู้นำประเทศ”

แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

หลังคลิปเสียงถูกเผยแพร่ อดีตนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ออกมาแถลงยอมรับว่า เป็นคลิปเสียงจริง หากแต่เป็น private conversation หรือบทสนทนาส่วนตัว และเป็นเทคนิคในการคุยเจรจาต่อรอง ส่วนการเจรจาที่ดูสนิทสนม เรียกสรรพนามแทนว่า Uncle เนื่องจากเป็นการพูดคุยส่วนตัว และเป็นการเรียกโดยปกติอยู่แล้ว

จาก “คลิปเสียงสนทนา uncle กับหลาน” กลายเป็นจุดหักเหให้ แพทองธาร ชินวัตร ต้องลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากต่อมาได้มีการยื่นฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ถึงเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้นำประเทศ ที่ขัดกับเหตุการณ์นี้ ศาลมีคำวินิจฉัย ให้แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568

4.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “ความขัดแย้ง ไทย - กัมพูชา”

กลายเป็น “ประเด็นร้อน” ต่อเนื่องกันมาทั้งปี 2568 สำหรับข้อพิพาทพื้นที่บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา โดยเหตุการณ์ความรุนแรงเริ่มต้นในเช้าวันที่ 24 ก.ค.68 ฝ่ายไทยตรวจพบการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธและโดรน ใกล้บริเวณปราสาทตาเมือนธม ก่อนที่จะเกิดการปะทะกันเป็นวงกว้างตามแนวชายแดนหลายจุด

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน กัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกใส่ปั๊มน้ำมัน ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เกิดเพลิงไหม้ร้านสะดวกซื้อ และมีผู้เสียชีวิต 7 คน ฝ่ายทหารไทยเริ่มปฏิบัติการตอบโต้ ความรุนแรงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทุกขณะ จนเป็นที่มาของการเจรจาหยุดยิงในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 ทว่าระหว่างนั้น ยังพบการปะทะของทหารทั้งสองฝ่ายในระดับย่อย และรวมถึงเหตุการณ์การเหยียบทุ่นระเบิดของทหารไทยอยู่เป็นระยะ

การปะทะกันของทั้งสองฝ่าย กลับมารุนแรงอีกครั้ง เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2568 การสู้รบกินระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร นับจากพื้นที่แถบภาคอีสานใต้กว่า 7 จังหวัด ไล่ลงมาถึงจังหวัดตราด ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ต้องอพยพจากบ้านเรือนมายังศูนย์พักพิงที่ปลอดภัย

กระทั่งเข้าสู่วันที่ 27 ธ.ค. 68 หลังประชุม GBC รอบล่าสุด ไทย - กัมพูชา ประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชม. นับตั้งแต่ 12.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค. 68 ซึ่งหลังจากนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังและจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะดูเหมือนว่า หนทางสู่ “สันติภาพ” จะยังคงต้องใช้เวลาอยู่ต่อไป

5.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “จากคุกทิพย์ สู่การจำคุกจริงของทักษิณ ชินวัตร”

ทักษิณ ชินวัตร

หลังการเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้งของ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2566 เพื่อรับโทษจำคุกรวม 8 ปี ทว่าเส้นทางการรับโทษของอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย กลับกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับเจ้าตัวอีกครั้ง

หลังจากถูกนำส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นับตั้งแต่วันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย ทักษิณได้รับการส่งตัวไปยัง รพ.ตำรวจ เนื่องจากเจ้าตัวเป็นกลุ่มเปราะบางอายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัว จึงได้รับการย้ายให้ไปรักษาตัวที่ “ชั้น 14” ของรพ.ตำรวจ

เวลาต่อมา ทักษิณได้รับการพระราชทานอภัยลดโทษลงเหลือ 1 ปี กระทั่งวันที่ 11 ม.ค. 67 อธิบดีกรมราชทัณฑ์เห็นชอบให้ ทักษิณ ชินวัตร รับการรักษาตัวที่รพ.ตำรวจต่ออีก โดยเกินกรอบเวลา 120 วัน เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ มีการถกเถียงกันถึงเรื่องระเบียบการพักรักษาตัวของนักโทษนอกเรือนจำ ว่ามีความสมควรหรือไม่

13 ก.พ. 67 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้มีการนำเสนอรายชื่อนักโทษที่จะได้รับการพักโทษ โดย 1 ใน 930 รายชื่อ มีชื่อของ ทักษิณ ซึ่งอยู่ในข่ายกลุ่มผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปรวมอยู่ด้วย

กระทั่งวันที่ 18 ก.พ. 67 ทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากปัญหาทางสุขภาพ และเดินทางกลับไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้า โดยเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะพ้นโทษในช่วงเดือนสิงหาคม 2567

มหากาพย์คดีความทักษิณดูหมือนจะสิ้นสุดลง ทว่าในช่วงเวลาดังกล่าว นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้มีการไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ ไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษา

แต่ศาลฎีกายกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่านายชาญชัย ไม่ใช่ผู้เสียหายของคดีดังกล่าว แต่ศาลได้เล็งเห็นว่า อาจมีการบังคับโทษที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด จึงเป็นที่มาของการไต่สวนข้อเท็จจริงกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเวลาต่อมา

กระทั่งวันที่ 9 ก.ย. 68 ศาลฎีกามีคำสั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี นายทักษิณ ชินวัตร โดยมีประเด็นหลัก คือ การส่งตัวจำเลยไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ไม่ได้เป็นไปตามระเบียนราชทัณฑ์ และอาการป่วยไม่ได้ฉุกเฉิน ซึ่ง รพ.ราชทัณฑ์ สามารถรักษาได้ ขณะที่การบังคับโทษไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยการที่จำเลยรักษาตัวใน รพ.ตำรวจ ถือว่าได้ประโยชน์ จึงไม่อาจถือระยะเวลาในการรักษาตัวใน รพ.ตำรวจ เป็นระยะเวลาของการรับโทษ ทำให้ต้องกลับมาบังคับโทษจำคุกจำเลย 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของการนั่งบนรถกรมราชทัณฑ์ของ ทักษิณ ชินวัตร ที่กลายเป็นภาพหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และถือเป็นภาพสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของการปิดฉาก “มหากาพย์คดีทักษิณ” ที่ยืดเยื้อและต่อเนื่องมาหลายทศวรรษ

6.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “เจนนี่…ไลฟ์ร้อยล้าน”

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

อีกหนึ่งความร้อนแรงในโลกออนไลน์ ที่กลายเป็น Talk of the town 2568 กับปรากฎการณ์ “ไลฟ์สด” ของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น นักร้องและอินฟลูเอนเซอร์คนดัง ที่พลิกทุกตำราการเอาชนะใจอัลกอรึทึ่ม สร้างสถิติไลฟ์ขายของ 9 วัน ทำเงินไปได้กว่า 800 ล้านบาท

ปรากฏการณ์ “ไลฟ์ร้อยล้าน” เริ่มต้นหลังจากเจนนี่มีกรณีดรามาเรื่องครอบครัว โดยเฉพาะปัญหาทางการเงินและหนี้สิน เธอพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เปิดการไลฟ์ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง

ไม่น่าเชื่อว่า ภายในเวลา 10 นาที เจนนี่สามารถขายสินค้าได้ยอดถึง 10 ล้านบาท เรื่องราวยังพีคในพีค เมื่อมีเหล่าคนดังมาร่วมไลฟ์กับเธอ งานนี้จึงยิ่งทำให้อัลกอรึทึ่มของแพลตฟอร์มดัง “เปิดการมองเห็น” ทำให้เจนนี่และแขกรับเชิญ สามารถทำยอดขายสินค้าได้อย่างมหาศาล

จากปรากฎการณ์ “เจนนี่ไลฟ์ฟีเวอร์” กลายเป็นมิติใหม่ให้บรรดานักการตลาด ต่างนำกรณีนี้ไปศึกษา และต่อยอดไปสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ช แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จด้วยกลวิธีเหล่านี้ เพราะการขายสินคาที่มีคุณภาพ คือความยั่งยืนที่สุดบนโลกการค้า

7.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “นานา เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด”

นานา ไรบีนา (ภาพจากเฟซบุก Nana Rybena)

ข่าวดังวงการบันเทิง 2568 ที่ถือว่าเป็น Talk of the town คงหนีไม่พ้น กรณีที่มีการเปิดเผยว่า มีดาราอักษาย่อ น. ชักชวนเพื่อนๆ ให้ร่วมลงทุน แต่สุดท้ายกลับผิดนัดชำระหนี้ เพื่อนบางคนถูกยืมเงินแล้วไม่ได้คืน จนยอดความเสียหายรวมมูลค่ากว่าหลายร้อยล้านบาท

ไม่นานนัก ดาราอักษรย่อ น. ก็มาเฉลยด้วยตัวเองว่า เธอคือ นานา ไรบีนา แถมเรื่องราวยังเชื่อมโยงไปยังกลุ่มเพื่อนสนิทที่ตกเป็นคู่กรณี นั่นคือ “แกงค์นางฟ้า” ที่มีดาราชื่อดังอย่าง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, แอน อลิชา, วุ้นเส้น วิริฒิพา, เจนสุดา ปานโต, พอลล่า เทเลอร์ และ คริส หอวัง กระทั่งหลายคนแสดงท่าทีด้วยการ “อันฟอลโลว์” อินสตาแกรมของนานาในทันที

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เข้าจับกุม นานา ไรบีนา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและกระทำผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หลังจากมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 17 ราย เข้าแจ้งความ โดยดาราสาวได้รับการประกันตัวออกไปด้วยวงเงิน 1 ล้านบาท และคดียังอยู่ในการสืบสวนต่อไป

8.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “มหาอุทกภัยหาดใหญ่”

น้ำท่วมหาดใหญ่

ปลายปี 2568 กับอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของคนทั้งประเทศ เรื่องราวภัยพิบัติ “น้ำท่วมหาดใหญ่” ที่สร้างความเสียหาย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 19 พ.ย. 68 เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคใต้ โดยเป็นลักษณะฝนที่เรียกว่า “ฝนตกแช่” (Stagnant Rainfall) หรือฝนที่ตกต่อเนื่องยาวนาน ด้วยความแรงสลับเบา แต่ไม่หยุดสนิท โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องสามวัน วัดปริมาณได้กว่า 600 มม. ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่

หาดใหญ่ส่อเค้าเข้าขั้นวิกฤตเพิ่มขึ้น เมื่อต่อมา มีมวลน้ำระลอกสอง ที่เกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมวลน้ำได้ไหลเข้าสู่พื้นที่ชุมชน พร้อมกับระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือนไม่ทัน สุดท้ายกลายเป็นผู้ประสบภัย ติดอยู่ในบ้านที่มีน้ำท่วมสูงมิดหลังคา

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 25 ปีของอำเภอหาดใหญ่ ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจที่เสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท รวมทั้งยังสะท้อนถึงความเปราะบางของพื้นที่มีต่อสภาพอากาศ มากไปกว่านั้น คือบทเรียนเรื่องการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดความสูญเสีย ทั้งต่อชีวิต และทรัพย์สินต่อไป

9.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “หมอนทอง และปรากฎการณ์สนามแตก”

ผู้ชมแน่นสนามศุภชลาศัย ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลกีฬา 7 สี

หากว่ากันด้วยเรื่องวงการกีฬา ปี 2568 คงเป็นปีทองของ “บอลเด็ก” โดยเฉพาะกับฟุตบอลกีฬา 7 สี ที่สร้างกระแส “หมอนทองฟีเวอร์” เรียกผู้ชมเข้าสนามจนล้นทะลัก!

ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา คือทีมฟุตบอลเด็กจากโรงเรียนเล็ก ๆ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มี อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน แถมยังพ่วงด้วยตำแหน่ง “คนขับรถ” ผู้พาเด็ก ๆ ขึ้นรถสองแถว เดินทางจาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา มาล่าฝัน ร่วมแข่งขันในฟุตบอลกีฬา 7 สี ที่กรุงเทพ

อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ

ไม่น่าเชื่อว่า อ.สกล & เด็ก ๆ ของเขา สร้างผลงานอันสุดไฉไล พวกเขาไล่เอาชนะทีมฟุตบอลจากโรงเรียนชื่อดัง จนผ่านเข้ามาสู่นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลกีฬา 7 สีได้สำเร็จ

ผลจากการเป็นทีม “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” บวกกับเรื่องราวแข้งนักล่าฝัน ทำให้ “หมอนทองวิทยา” ได้รับการพูดถึงในโลกออนไลน์ และกลายเป็นทีมดังในชั่วข้ามคืน พร้อมกับสร้างปรากฎการณ์ เรียกคนดูเข้าไปชมเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลกีฬา 7 สี จำนวนนับหมื่นคน ทำให้สนามศุภชลาศัยกลับมามีชีวิตชีวาในรอบหลายสิบปี

แม้สุดท้าย ทีมหมอนทองวิทยา จะพ่ายแพ้แก่ทีมฟุตบอล รร.องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาทไป 1 – 2 ได้เพียงรองแชมป์ฟุตบอลกีฬา 7 สี แต่เรื่องราวของการ “สู้ดิวะ!” ของเด็ก ๆ และโค้ชกลุ่มนี้ คือตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชน ตลอดจนเป็นโจทย์สำคัญของการต่อยอดกระแสฟุตบอลเยาวชนให้กับประเทศต่อไป

10.Talk of the town เรื่องดังแห่งปี 2568 “ทองคำ…ทำ New High”

ไม่ใช่แค่ “หมอนทอง” ที่ร้อนแรง แต่ “ราคาทอง” ในรอบปี 2568 ก็มีความเร่าร้อนชนิดทำ New High กว่า 50 ครั้ง ถือเป็นสถิติใหม่ประจำปี 2568 เลยทีเดียว

ทองคำมีการเปลี่ยนแปลงราคาที่สำคัญ เริ่มต้นในเดือนมกราคม 2568 โดยราคาทองคำแท่งในตลาดโลก เปิดที่ 2,632 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศ เปิดตลาดเมื่อต้นปีที่ 42,650 บาทต่อบาททองคำ

กระทั่งในเดือนเมษายน 2568 ราคาทองคำพุ่งทะลุ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำในประเทศทะลุ 50,000 บาทต่อบาททองคำ หลังจากนั้น เดือนตุลาคม 2568 ราคาทะลุไปอีกเป็น 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรืออยู่ที่ประมาณ 61,000 บาทต่อบาททองคำ

สำหรับเดือนธันวาคม (ณ วันที่ 26 ธ.ค.68) ราคาทองคำยังพุ่งแรงส่งท้ายปี ไปแตะที่ 4,531 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็นประมาณ 66,200 บาทต่อบาททองคำ สรุปทั้งปี 2568 ทองคำทำ New High สะสมรวมกว่า 50 ครั้ง ซึ่งมากกว่าปี 2567 ที่ทั้งปีทำ New High ไปกว่า 40 ครั้ง

ปัจจัยที่ส่งผลให้ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี มาจากสาเหตุ 4 ด้าน คือ
1.ดอกเบี้ยมีทิศทางลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
2.การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อลดความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งด้านความมั่นคง และรองรับ De-dollarization หรือการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์
3.การโยกเงินจากตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนต่ำ มาสู่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
4.การเก็บเงินไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์

ต้องจับตาดูว่า ราคาทองคำ จะยุ่งคงพุ่งอย่างต่อเนื่องอีกหรือไม่ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุน หรือผู้ที่หวังเก็งกำไร การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง และควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ยังมีปัจจัยที่สร้างความผันผวน เกิดขึ้นได้ในปีหน้าเช่นกัน

ทั้งหมดคือ Talk of the town แห่งปี 2568 ขอให้ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็น “บทเรียน” พร้อมกับก้าวผ่านปีเก่า เข้าสู่ปีใหม่อย่างมีสติ ดำเนินชีวิตด้วยความคิดและทัศนคติที่ดีอยู่เสมอ…

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

Talk of the town 10 เรื่องดังแห่งปี 2568