จากกระแสในโซเชียลมีเดีย กล่าวถึงภาพที่อ้างว่าเป็นแร้งรุมกินศพทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ภูมะเขือและภูผี จ.ศรีสะเกษ ทำให้เกิดการถกเถียงถึงความเป็นไปได้ของปรากฏการณ์นี้ ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านนกเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและการกระจายตัวของแร้งในภูมิภาคอินโดจีน โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
นายสมิทธิ์ สูติบุตร ช่างภาพอิสระและกรรมการพิจารณาข้อมูลนก สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ระบุว่า แร้งในกัมพูชาเป็นสัตว์ประจำถิ่น ปัจจุบันเหลือเพียงกลุ่มสุดท้ายประมาณ 100 ตัว
แร้งประจำถิ่นในกัมพูชายังมีอยู่ 3 ชนิด คือ พญาแร้ง อีแร้งสีน้ำตาล และอีแร้งเทาหลังขาว แต่ประชากรไม่ได้เยอะมากนัก จะพบอยู่หลายจุดใกล้ชายแดนห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 50-60 กิโลเมตร
○ อีแร้งเทาหลังขาว : มีขนาดประมาณ 87-89 ซม. หางสั้น ปลายหางค่อนข้างมน และมุมหางตัด หัวไม่มีขนคลุม คอมีขนล้อมรอบเป็นปุยสีขาว ขาอ่อนมีขนสีขาวปกคลุม จะเห็นชัดในขณะที่บิน แต่เวลายืนตามปกติมักมองไม่เห็น
○ พญาแร้ง : มีขนาดประมาณ 80 ซม. เมื่อโตเต็มที่หัว คอ และเท้ามีสีแดง ขนตามลำตัวสีดำ ขนที่หน้าอกและโคนขามีสีขาว ที่คอมีสีขาวขึ้น โดยเพศผู้จะมีม่านตาสีเหลือง ส่วนเพศเมียจะมีม่านตาสีดำไปจนถึงสีแดงหม่น
○ อีแร้งสีน้ำตาล : มีขนาดประมาณ 90 ซม. ขนตามลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อน ขอบขนเป็นสีจาง ๆ ส่วนท้องมีสีน้ำตาลอ่อน แผงขนรอบต้นคอเป็นขนอุยหรือขนอ่อนสีน้ำตาล มีจะงอยปากที่งุ้มเรียวกว่าแร้งชนิดอื่น ๆ
นายสมิทธิ์อธิบายว่า แร้งจะไม่บินออกนอกพื้นที่หากินหลักของมัน เว้นแต่มีปัจจัยพิเศษ เช่น การขาดแคลนอาหาร อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่แร้งอาศัยอยู่ในกัมพูชา มีการจัดหาซากสัตว์ให้เป็นประจำโดยกลุ่มอนุรักษ์ ทำให้โอกาสที่แร้งจะบินไกลถึง 50 กิโลเมตรเพื่อหากินที่ชายแดน เช่น ภูมะเขือ เป็นไปได้น้อย
รู้หรือไม่ ? ไทยเคยมีแร้งประจำถิ่น 3 สายพันธุ์เดียวกับกัมพูชา แต่ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในสถานะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว เพราะภัยคุกคาม และสารพิษต่าง ๆ ในซากสัตว์ที่มาจากมนุษย์ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ
📌 อ่านต่อ : www.thaipbs.or.th/news/content/355004
🎬 ชมคลิป "ทำไมพญาแร้งสูญพันธุ์ไปจากไทย" ได้ที่ https://youtu.be/uCBKGwTJcxk
ที่มาข้อมูล : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ที่มาภาพ : Balaji P B, Dipayan Chakraborty, ชาลี วาระดี
📌 เกาะติดสถานการณ์และบทวิเคราะห์ "ไทย-กัมพูชา" : www.thaipbs.or.th/ThailandCambodiaBorder
จากกระแสในโซเชียลมีเดีย กล่าวถึงภาพที่อ้างว่าเป็นแร้งรุมกินศพทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ภูมะเขือและภูผี จ.ศรีสะเกษ ทำให้เกิดการถกเถียงถึงความเป็นไปได้ของปรากฏการณ์นี้ ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านนกเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและการกระจายตัวของแร้งในภูมิภาคอินโดจีน โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
นายสมิทธิ์ สูติบุตร ช่างภาพอิสระและกรรมการพิจารณาข้อมูลนก สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ระบุว่า แร้งในกัมพูชาเป็นสัตว์ประจำถิ่น ปัจจุบันเหลือเพียงกลุ่มสุดท้ายประมาณ 100 ตัว
แร้งประจำถิ่นในกัมพูชายังมีอยู่ 3 ชนิด คือ พญาแร้ง อีแร้งสีน้ำตาล และอีแร้งเทาหลังขาว แต่ประชากรไม่ได้เยอะมากนัก จะพบอยู่หลายจุดใกล้ชายแดนห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 50-60 กิโลเมตร
○ อีแร้งเทาหลังขาว : มีขนาดประมาณ 87-89 ซม. หางสั้น ปลายหางค่อนข้างมน และมุมหางตัด หัวไม่มีขนคลุม คอมีขนล้อมรอบเป็นปุยสีขาว ขาอ่อนมีขนสีขาวปกคลุม จะเห็นชัดในขณะที่บิน แต่เวลายืนตามปกติมักมองไม่เห็น
○ พญาแร้ง : มีขนาดประมาณ 80 ซม. เมื่อโตเต็มที่หัว คอ และเท้ามีสีแดง ขนตามลำตัวสีดำ ขนที่หน้าอกและโคนขามีสีขาว ที่คอมีสีขาวขึ้น โดยเพศผู้จะมีม่านตาสีเหลือง ส่วนเพศเมียจะมีม่านตาสีดำไปจนถึงสีแดงหม่น
○ อีแร้งสีน้ำตาล : มีขนาดประมาณ 90 ซม. ขนตามลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อน ขอบขนเป็นสีจาง ๆ ส่วนท้องมีสีน้ำตาลอ่อน แผงขนรอบต้นคอเป็นขนอุยหรือขนอ่อนสีน้ำตาล มีจะงอยปากที่งุ้มเรียวกว่าแร้งชนิดอื่น ๆ
นายสมิทธิ์อธิบายว่า แร้งจะไม่บินออกนอกพื้นที่หากินหลักของมัน เว้นแต่มีปัจจัยพิเศษ เช่น การขาดแคลนอาหาร อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่แร้งอาศัยอยู่ในกัมพูชา มีการจัดหาซากสัตว์ให้เป็นประจำโดยกลุ่มอนุรักษ์ ทำให้โอกาสที่แร้งจะบินไกลถึง 50 กิโลเมตรเพื่อหากินที่ชายแดน เช่น ภูมะเขือ เป็นไปได้น้อย
รู้หรือไม่ ? ไทยเคยมีแร้งประจำถิ่น 3 สายพันธุ์เดียวกับกัมพูชา แต่ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในสถานะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว เพราะภัยคุกคาม และสารพิษต่าง ๆ ในซากสัตว์ที่มาจากมนุษย์ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ
📌 อ่านต่อ : www.thaipbs.or.th/news/content/355004
🎬 ชมคลิป "ทำไมพญาแร้งสูญพันธุ์ไปจากไทย" ได้ที่ https://youtu.be/uCBKGwTJcxk
ที่มาข้อมูล : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ที่มาภาพ : Balaji P B, Dipayan Chakraborty, ชาลี วาระดี
📌 เกาะติดสถานการณ์และบทวิเคราะห์ "ไทย-กัมพูชา" : www.thaipbs.or.th/ThailandCambodiaBorder