- "ศักดิ์ศรี" ในสมรภูมิ ทำไมต้องเก็บศพทหารในยามสงคราม ?
- กฎแห่งสงคราม ทำไม "โรงพยาบาล" คือเขตห้ามโจมตี ?
จากกระแสในโซเชียลมีเดีย กล่าวถึงภาพที่อ้างว่าเป็นแร้งรุมกินศพทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ภูมะเขือและภูผี จ.ศรีสะเกษ ทำให้เกิดการถกเถียงถึงความเป็นไปได้ของปรากฏการณ์นี้ ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านนกเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและการกระจายตัวของแร้งในภูมิภาคอินโดจีน โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชานายสมิทธิ์ สูติบุตร ช่างภาพอิสระและกรรมการพิจารณาข้อมูลนก สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ระบุว่า แร้งในกัมพูชาเป็นสัตว์ประจำถิ่น ปัจจุบันเหลือเพียงกลุ่มสุดท้ายประมาณ 100 ตัว แร้งประจำถิ่นในกัมพูชายังมีอยู่ 3 ชนิด คือ พญาแร้ง อีแร้งสีน้ำตาล และอีแร้งเทาหลังขาว แต่ประชากรไม่ได้เยอะมากนัก จะพบอยู่หลายจุดใกล้ชายแดนห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 50-60 กิโลเมตร
แร้งมีพฤติกรรมหากินในรัศมีจำกัด 10-50 กิโลเมตร โดยใช้สายตาและกลิ่นนำทางในการค้นหาซากสัตว์ พวกมันมักเลือกพื้นที่โล่งและเงียบสงบเพื่อความปลอดภัย ไม่นิยมบินเข้าพื้นที่ป่าทึบหรือบริเวณที่มีความวุ่นวาย เช่น จุดที่มีการสู้รบ
นายสมิทธิ์อธิบายว่า แร้งจะไม่บินออกนอกพื้นที่หากินหลักของมัน เว้นแต่มีปัจจัยพิเศษ เช่น การขาดแคลนอาหาร อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่แร้งอาศัยอยู่ในกัมพูชา มีการจัดหาซากสัตว์ให้เป็นประจำโดยกลุ่มอนุรักษ์ ทำให้โอกาสที่แร้งจะบินไกลถึง 50 กิโลเมตรเพื่อหากินที่ชายแดน เช่น ภูมะเขือ เป็นไปได้น้อย
แร้งต้องวนบินครึ่งชั่วโมงเพื่อสำรวจความปลอดภัยก่อนลงกินซาก และจะไม่เลือกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหรือวุ่นวาย
สอดคล้องกับความเห็นจาก นายสัตวแพทย์เกษตร สุเตชะ อดีตนายกสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย และอาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า แร้งในไทยสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2535 โดยพบครั้งสุดท้ายที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ปัจจุบัน แร้งที่พบในภูมิภาคอินโดจีนมีเพียงกลุ่มเดียวในกัมพูชา ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรอนุรักษ์
อ.เกษตร ย้ำว่า แร้งใช้สายตาและกลิ่นในการหาอาหาร แต่กลิ่นจากซากศพไม่สามารถลอยไกลถึง 50 กิโลเมตรเพื่อดึงดูดแร้งได้ นอกจากนี้ แร้งมักหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของมนุษย์หรือการสู้รบ และชอบที่โล่งเพื่อความปลอดภัยในการลงกินอาหาร
น.สพ.เกษตร ยังตั้งข้อสังเกตว่า บางภาพในโซเชียลอาจมีนกที่คล้ายแร้ง เช่น นกปากห่าง (Leptoptilos) ซึ่งไม่กินซากศพเหมือนแร้ง การเผยแพร่ภาพที่อาจมาจากแหล่งอื่นและไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชายแดนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด แนะนำประชาชนตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือก่อนแชร์ เพื่อลดความสับสนในสถานการณ์ที่อ่อนไหว
ทั้ง 2 ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า แร้งเป็นสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ โดยช่วยกำจัดซากสัตว์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนที่เหลือน้อยและพฤติกรรมที่จำกัดการหากินในพื้นที่เฉพาะ โอกาสที่แร้งจะปรากฏในบริเวณที่มีการสู้รบอย่างชายแดนไทย-กัมพูชานั้นมีความเป็นไปได้ต่ำ
อ่านข่าวอื่น :
ชาวกาซาอดอยาก 175 เสียชีวิตจากขาดอาหาร วอนยุติสงคราม
สธ.สำรวจ "รพ.พนมดงรัก" ถูกกัมพูชาโจมตี เสียหาย 45 ล้าน











