“ต้นไม้และป่าไม้มีคุณสมบัติที่ดี คือ สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ไว้ก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้นพื้นที่ป่าลดน้อยลงปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะลอยขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น“
บทความโดย สมชัย เบญจชย
นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ กลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่16 เชียงใหม่

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ที่มีอยู่ในชั้นบรรยากาศเกิดจากธรรมชาติและเกิดจากฝีมือของมนุยษย์เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆและการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือการเกษตรกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดไม้ทำลายป่านี้นับว่าเป็นตัวการสำคัญกว่า 20% ในการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ขึ้นสู่บรรยากาศ ทั้งนี้เนื่องจากต้นไม้และป่าไม้มีคุณสมบัติที่ดีคือสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ไว้ก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้นพื้นที่ป่าลดน้อยลงปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะลอยขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น
การกักเก็บคาร์บอน
ปัจจุบันการกักเก็บคาร์บอนมีอยู่ 2 วิธีด้วยกันคือทางตรงและทางอ้อม แต่วันนี้เราจะมาคุยถึงการเก็บทางอ้อมกัน คือการเก็บคาร์บอนที่ดีที่สุดคือการเก็บไว้ในต้นไม้และป่าไม้เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่สำคัญที่สุด ดังนั้นป่าไม้จึงมีบทบาททั้งในด้านการกักเก็บและปลดปล่อยคาร์บอน การกักเก็บหรือดูดซับคาร์บอนไดอ๊อกไซค์จะผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งต้นไม้จะนำก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซค์มาใช้ในการสร้างอาหารและเพิ่มผลผลิตมวลชีวภาพ

การกักเก็บคาร์บอนในเนื้อไม้
สำหรับปริมาณการกักเก็บคาร์บอนจากก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ คือ เนื้อไม้ การสร้างเนื้อไม้ขึ้นมา 1 ตันจะสามารถดูดก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ได้ประมาณ 1.81 ตันและยังปล่อยก๊าซอ๊อกซิเจนประมาณ 1.32 ตัน เห็นหรือยังครับว่าต้นไม้ที่มีอยู่รอบๆบ้านเรามีคุณค่าเพียงใด ถ้าเราสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้นๆปัญหาโลกร้อนคงจะหมดไปในไม่ช้า
เปรียบเทียบการปล่อยคาร์บอนของรถเล็ก 1 คัน กับการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ 1 ต้น
| ตารางแสดง การปล่อยปริมาณ CO2 และ C ของรถเล็กทั่วไป 1 คัน ที่วิ่งตามระยะทางและจำนวนวัน | 
 | ||||||||
| จำนวนวันและจำนวนที่ปล่อย | 
 | ||||||||
| จำนวนที่ปล่อย | 1 วัน | 30 วัน | 6 เดือน | 1 ปี | 
 | ||||
| ลำดับที่ | ระยะทาง | CO2 | C | C | C | C | C | 
 | |
| (กิโลเมตร) | (กรัม) | (กรัม) | (กิโลกรัม) | (กิโลกรัม) | (กิโลกรัม) | (กิโลกรัม) | 
 | ||
| 1 | 44 | 12 | 0.012 | 0.36 | 2 | 4 | 
 | ||
| 2 | 1 | 200 | 55 | 0.055 | 1.64 | 10 | 20 | 
 | |
| 3 | 10 | 2,000 | 545 | 0.545 | 16.36 | 98 | 196 | 
 | |
| 4 | 20 | 4,000 | 1,091 | 1.091 | 33 | 196 | 393 | 
 | |
| 5 | 30 | 6,000 | 1,636 | 1.636 | 49 | 295 | 589 | 
 | |
| 6 | 40 | 8,000 | 2,182 | 2.182 | 65 | 393 | 785 | 
 | |
| 7 | 50 | 10,000 | 2,727 | 2.727 | 82 | 491 | 982 | 
 | |
| 8 | 60 | 12,000 | 3,273 | 3.273 | 98 | 589 | 1,178 | 
 | |
| 9 | 70 | 14,000 | 3,818 | 3.818 | 115 | 687 | 1,375 | 
 | |
| 10 | 80 | 16,000 | 4,364 | 4.364 | 131 | 785 | 1,571 | 
 | |
| 11 | 90 | 18,000 | 4,909 | 4.909 | 147 | 884 | 1,767 | 
 | |
| 12 | 100 | 20,000 | 5,455 | 5.455 | 164 | 982 | 1,964 | 
 | |
หมายเหตุ
1. C) = 12 O) = 16 CO2) = 12 + (16×2) = 44
2. 1 CO2 200 (http://www.mop-bkc.com/articleDetail.asp?id=62)

ความหมาย/ตัวอย่าง ลำดับที่ 7
1 คัน วิ่งวันละ 50 กม จะปล่อยคาร์บอน 2.727 กก, 30 วันจะปล่อยคาร์บอน 82 กก, ครึ่งปีจะปล่อยคาร์บอน 491 กก, และ 1 ปีจะปล่อยคาร์บอน 982 กก หรือเกือบ 1 ตัน
เปรียบเทียบการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ของรถเล็ก
- 1 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 1 ตัน เท่ากับต้นยางนา 1 คนโอบ 1 ต้น ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 1 ตัน
- 4 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 4 ตัน เท่ากับต้นยางนา 2 คนโอบ 1 ต้น ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 4 ตัน
- 9 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 9 ตัน เท่ากับต้นยางนา 3 คนโอบ 1 ต้น ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 9 ตัน
รถเล็กทั่วไป 16 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 16 ตัน เท่ากับต้นยางนา 4 คนโอบ 1 ต้น (ใหญ่ที่สุดในถนนสายยางนาเชียงใหม่-สารภี) ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 16 ตัน
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอ
-ประมาณการเครดิตคาร์บอน 7 ยูโรต่อตันคาร์บอน = 7×38 = 266 บาทต่อตันคาร์บอน
-ถ้าเจ้าของรถเล็กทั่วไป 1 คันวิ่งวันละ 50 กม ทุกปีจะปล่อยคาร์บอน 1 ตัน น่าจะจ่ายค่าปล่อยคาร์บอน 266 บาท เอาไปไหน? เอาไปช่วยปลูกหรือบำรุงรักษาต้นยางนา ขนาด 1 คนโอบ 1 ต้น ดีไหมครับ?
-มุมมองอีกด้านหนึ่ง การนำคาร์บอนกลับคืนมาจากบรรยากาศที่รถยนต์ปล่อยออกไปนั้นเป็นเรื่องยาก ซึ่งโลกนี้มีต้นไม้หรือพืชอื่นๆ เท่านั้นที่นำคาร์บอนในบรรยากาศกลับมาในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงซึ่งต้องใช้เวลา เช่นต้นยางนากว่าจะโตขนาด 1 คนโอบ ต้องใช้เวลาถึงประมาณ 30 ปี เป็นต้น (คาร์บอนไดออกไซด์ส่วนหนึ่งจะถูกน้ำฝนละลายลงสู่พื้นดินหรือท้องทะเลด้วย)
-ครับ ช่วยกันลดมลภาวะและปลูกบำรุงรักษาต้นไม้เพื่อโลกใบนี้ให้สวยและยั่งยืน



 
         
        