กรณีข่าวพบยุงตัวแรกในป่าที่ไอซ์แลนด์ ประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะอันมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและสภาพอากาศสุดขั้ว ทั้งภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น และธารน้ำแข็งขนาดมหึมาอยู่ในที่เดียวกัน
ได้ทำให้หลายคนตกอกตกใจถึงผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีเรื่องนี้เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือน!
The Visual by Thai PBS พูดคุยกับ ดร.ศิริพร ยงชัยตระกูล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มกีฏวิทยาและควบคุมแมลงนำโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำความเข้าใจถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว พร้อมอัปเดตสถานการณ์ยุงในประเทศไทย
ไอซ์แลนซ์ มียุงครั้งแรกได้อย่างไร?
หัวหน้ากลุ่มกีฏวิทยาและควบคุมแมลงนำโรค เล่าฉายภาพถึงพื้นที่ที่ไม่เคยพบยุงมาก่อน ในโลกใบนี้นอกจากไอซ์แลนด์ ยังมีทวีปแอนตาร์กติกา เหตุเพราะมีสภาพอากาศหนาวมาก

ดร.ศิริพร เล่าว่า เดิมทียุงจะอาศัยอยู่ไม่ได้ในอากาศหนาวมาก ๆ แต่ปัจจุบันที่พบคือเป็นยุงสายพันธุ์ที่พบได้ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น กรณีไอซ์แลนด์จากข่าวเป็นไปได้ว่า ยุงอาจเดินทางมาทางเรือหรือตู้คอนเทนเนอร์ แต่จะสามารถอยู่รอดจนครบวงจรชีวิตหรือตั้งถิ่นฐานได้หรือไม่นั้น เรายังไม่ทราบ
“มีความเป็นไปได้ หรือเป็นข้อสงสัยว่า อาจเพราะช่วงหลังไอซ์แลนด์มีอุณหภูมิสูงขึ้นมาก ซึ่งปกติถ้าอุณหภูมิสูงขึ้น สิ่งมีชีวิตก็จะมีโอกาสอยู่รอดได้มากขึ้น”
“นี่เป็นสัญญาณว่า ขนาดไอซ์แลนด์อุณหภูมิยังสูงขึ้น ทั่วโลกที่เรารู้อยู่แล้วว่าอากาศร้อนขึ้น ย่อมทำให้สิ่งมีชีวิตเช่นยุง สามารถเพิ่มพื้นที่อาศัยได้มากขึ้น ถ้าหากยุงนั้นนำเชื้อโรคได้ ก็จะทำให้มีแหล่งแพร่พันธุ์มากขึ้น”
แต่ ดร.ศิริพร ยอมรับว่ายุง 3 ตัวที่พบในไอซ์แลนด์นี้ เท่าที่สืบค้นมายังไม่พบว่านำโรค เช่น มาลาเรีย หรือซิกาได้

ปกติยุงชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่-อากาศลักษณะไหน?
แม้ยุงจะพบได้ในเกือบทุกพื้นที่ แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ยุงไม่ได้ชอบอยู่อาศัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสภาพอากาศเย็นจัดหรือหนาวจัด เพราะอุณหภูมิต่ำมีผลต่อการเจริญเติบโตของไข่ ลูกน้ำ และการแพร่พันธุ์ของเชื้อในยุง
ส่วนใหญ่ยุงจะชอบอากาศอุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาฯ ขึ้นไป ซึ่งค่อนข้างอบอุ่นและร้อนชื้น
ยกเว้นยุงบางกลุ่มที่ปรับตัวในอากาศเย็นได้ เช่น ยุงสายพันธุ์ที่เป็นข่าว ซึ่งเป็นยุงเฉพาะถิ่น พบได้ตามภูมิอากาศที่เย็นของยุโรป แอฟริกาเหนือ และบางส่วนของเอเชีย แต่ถึงแม้อยู่ในที่หนาว ก็ไม่ใช่ว่าจะบินไปมา แต่ยุงเหล่านี้มักจะหลบหาที่อบอุ่นอยู่ เช่น ตามโรงนา หรือห้องใต้ดิน
แล้วอุณหภูมิต้องเย็นจัด-ร้อนจัดเท่าใด ยุงถึงจะตาย?
โดยเฉลี่ยยุงทั่วไปจะอยู่ในอากาศอุณหภูมิ 20-30 องศาฯ แต่ถ้าต่ำกว่า 10 องศาฯ เป็นเวลานาน ๆ ตามงานวิจัยระบุว่ามักจะค่อย ๆ ตาย เพราะไข่และลูกน้ำจะหยุดพัฒนา และถ้าสูงกว่า 40 องศาฯ ก็จะค่อย ๆ ตายเหมือนกัน
ยุงในยุคโลกร้อน มีวิวัฒนาการอย่างไร?
อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ยุงมีวงจรชีวิตสั้นลง สมมุติของเดิมจากไข่ ไปลูกน้ำ ตัวโม่ง และตัวเต็มวัยใช้เวลา 10-15 วัน ก็อาจลดเหลือ 7-10 วัน พอครบวงจรเร็วขึ้น การสืบพันธุ์เร็วขึ้น ประชากรยุงจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ถ้าหากยุงนั้นนำเชื้อโรคได้ด้วย ก็จะทำให้มีประสิทธิภาพในการเป็นพาหะนำโรคได้มากขึ้นกว่าปกติ นี่คือข้อที่ต้องเฝ้าระวัง เช่น อาจเกิดการแพร่กระจายของโรคไปยังพื้นที่ที่ไม่เคยพบโรคนั้นมาก่อน ซึ่งคนในพื้นที่ก็ไม่เคยเจอโรคที่นำโดยยุงชนินั้นๆ และขาดประสบการณ์ในการควบคุม ทำให้ต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง
“ยุงค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไป เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ร้อนขึ้น อย่างประเทศไทยที่ร้อนอยู่แล้ว อากาศอุณหภูมิ 18-38 องศาฯ เราอาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมชัดเจน แต่ที่สังเกตเห็นได้คือ วงจรชีวิตสั้นลง เติบโตเร็วขึ้น อายุยืนยาวขึ้น หรือกัดบ่อยขึ้น”
ดร.ศิริพร เล่าขยายความยุงยุคโลกร้อนกัดบ่อยขึ้นว่า อากาศร้อนเหมือนเป็นตัวกระตุ้นให้ยุงมีกิจกรรมมากขึ้น และพอยุงมีวงจรชีวิตสั้นลง เราสังเกตเห็นว่าขนาดตัวยุงจะเล็กลง แต่มีความกระตือรือร้น ปรับตัว และเข้ากัดคนมากขึ้น
วิธีป้องกันยุงที่ดีที่สุด?
ขอเตือนให้ทุกคนระมัดระวังแหล่งน้ำรอบบ้าน ทำอย่างไรจะกำจัดลูกน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคตั้งแต่ต้นทาง ภายใต้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
“การป้องกันยุงที่ดีคือ ต้องกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ ไม่ให้ยุงมีที่อยู่อาศัย ควบคู่กับการป้องกันไม่ให้ยุงกัด เช่น ทายากันยุง การนอนในมุ้ง และสวมเสื้อผ้าแขนยาวขายาวมิดชิด”
นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่น ๆ เช่น ปล่อยปลากินลูกน้ำ ใช้ทรายกำจัดลูกน้ำ หรือทรายอะเบท ในแหล่งน้ำที่คว่ำไม่ได้ เช่น อ่างซีเมนท์ หรืออ่างในห้องน้ำ ฯลฯ ซึ่งมีความปลอดภัยถ้าใส่ในปริมาณที่แนะนำในฉลาก แต่ถ้าเป็นภาชนะที่คว่ำได้ เราก็ควรคว่ำ เหล่านี้ก็จะป้องกันโรคที่เกิดจากยุงได้ เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้มาลาเรีย เป็นต้น
ยุงชอบกัดคนแบบไหน?
แม้ยุงจะกัดคนไปทั่ว แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ดึดดูดเป็นพิเศษให้ยุงมุ่งเข้าไปกัด คือ คนที่ใส่สวมใส่ชุดสีเข้ม เช่น สีดำ ฯลฯ จะดึงดูดยุง รวมถึงคนที่ตัวร้อน หรืออุณหภูมิร่างกายสูงกว่าคนอื่น เช่น คนที่เพิ่งออกกำลังกายมา ยังไม่ได้อาบน้ำ คนเหล่านี้ยุงจะหาเจอง่ายกว่า เพราะยุงตามหาคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนคนที่มีรูปร่างอ้วน ดึงดูดยังให้กัดมากกว่าคนทั่วไปหรือไม่นั้น ดร.ศิริพร บอกว่า ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน มันขึ้นอยู่กับอุณหภูมิร่างกายมากกว่า เป็นคนที่ผิวหนังยังมีความร้อนอยู่ หรือคนที่มีเมตาบอลิซึมสูง ก็จะดึงดูดยุงได้มากกว่า
มีแมลงอื่น ๆ วิวัฒนาการจากภาวะโลกร้อนอีกหรือไม่ ?
ดร.ศิริพร บอกว่า มี โดยจากรายงานวิจัยพบว่ามี เช่น แมลงปอเพศผู้แถบอเมริกาเหนือ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศ โดยแมลงปอจะมีเม็ดสี (เมลานิน) บนปีก พออากาศร้อน เม็ดสีบนปีกก็จะซีดลง เพื่อให้ดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์น้อยลง ทำให้ตัวเย็นขึ้น เพราะแมลงปอตัวผู้ต้องบินไล่คู่แข่งและผสมพันธุ์กลางแดด ถ้าปีกสีเข้มและดูดความร้อนมาก อุณหภูมิร่างกายจะสูงเกินไปและบินได้ไม่นาน นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของวิวัฒนาการ ซึ่งเชื่อว่าคงมีแมลงอื่น ๆ ที่เป็นแบบนี้
วิวัฒนาการของสัตว์จากภาวะโลกร้อน จะส่งผลกระทบให้เกิดโรคระบาด หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มนุษย์ในอนาคตอย่างไร?
ดร.ศิริพร บอกว่า ในส่วนยุง แม้ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่จะเห็นว่าเขาปรับตัวได้ดีขึ้น ทีนี้นักวิจัยหรือนักกีฏวิทยา ก็ต้องจับตาดูว่าในอนาคต ยุงหรือแมลงรบกวนเหล่านี้ มีลักษณะหรือพฤติกรรมแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ เช่น จากปกติที่กัดคนในบ้าน เปลี่ยนไปกัดนอกบ้านมากขึ้นหรือไม่ เพราะมันเกี่ยวข้องกับการควบคุมแมลง เราจึงต้องติดตามต่อไป
แต่เท่าที่ดูสถานการณ์โรคติดต่อจากยุง เช่น ไข้เลือดออก สำหรับปีนี้ในไทยดีขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะมีการรณรงค์อย่างเข้มข้น ทำให้ประชาชนตระหนักและป้องกันตัวเองมากขึ้น แม้หลายพื้นที่ประสบน้ำท่วมขัง แต่สถานการณ์โรคระบาดจากยุงก็ไม่ได้พุ่งสูงขึ้น

สุดท้ายอย่าเพิ่งตื่นกลัวว่ายุงจะมีวิวัฒนาการไปอย่างไร สำคัญคือ คนต้องป้องกันตัวให้ดี ด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ และทำอย่างไรจะไม่ให้ยุงกัด
อ่านเพิ่มเติม



