สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เปิดเผยข้อมูลว่า พบการร้องเรียนของผู้บริโภคพุ่งสูงเกือบ 40% ภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น สาเหตุมาจากการถูกหลอกลวงจาก “โฆษณาปลอม” โดยเฉพาะโฆษณาที่ใช้ AI สร้างภาพสินค้า บริการ หรือสถานที่ที่ดูสมจริงเกินไป จนผู้บริโภคเข้าใจผิด หลังมีผู้ประกอบธุรกิจบางรายอาศัยช่องว่างของกฎหมาย ใช้ภาพโฆษณาจาก AI นำเสนอขายสินค้าหรือบริการ ทำให้ผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิเพิ่มมากขึ้น
เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อ-โอน
เบื้องต้น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แนะให้ผู้บริโภคระวังในเลือกซื้อสินค้าและบริการจากโฆษณาบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ได้ถูกนำมาใช้ในการสร้าง “ภาพปลอม” ที่ดูสมจริงเพื่อหลอกลวงให้ผู้บริโภคเชื่อและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการที่ไม่มีอยู่จริง หรือไม่ได้คุณภาพตามที่โฆษณาไว้ ดังนี้
- ตรวจสอบแหล่งที่มาของโฆษณา ว่าเป็นแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้หรือไม่ และมีข้อมูลติดต่อชัดเจน
- สังเกตรายละเอียดของภาพ เช่น ความผิดปกติของพื้นหลัง รายละเอียดใบหน้า มือ หรือตัวหนังสือในภาพ ซึ่งมักเป็นจุดที่ AI มักทำผิดพลาด
- อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง หรือค้นหาข้อมูลประกอบจากหลายแหล่งก่อนตัดสินใจ
- หลีกเลี่ยงการโอนเงินล่วงหน้า หากยังไม่แน่ใจในความน่าเชื่อถือของร้านค้า เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง
ใช้ภาพ AI ขายสินค้าโฆษณาเกินจริง เสี่ยงผิดกม.
กองคุ้มครองผู้บริโภค เตรียมออกประกาศเกี่ยวกับแนวทางการโฆษณาและดำเนินการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด ดังนี้
หากผู้ประกอบธุรกิจที่ใช้ AI สร้างภาพหรือเนื้อหาเพื่อโฆษณาสินค้าหรือบริการในลักษณะที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสินค้าหรือบริการ อาจเข้าข่ายเป็นการโฆษณาโดยไม่เป็นธรรมตาม มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
สคบ. ขอความร่วมมือผู้ผลิตเนื้อหาและผู้โฆษณาหลีกเลี่ยงการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะที่อาจชักจูงให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสินค้าหรือบริการอันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
หากพบเห็นโฆษณาใดที่อาจสื่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือมีลักษณะเข้าข่ายไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน สคบ. 1166 หรือทางเว็บไซต์ www.ocpb.go.th