EN

แชร์

Copied!

PDPC หารือภาครัฐ – ภาคเอกชนปิดช่องโหว่สแกนม่านตา ลุยตรวจสอบแพลตฟอร์มดิจิทัล คุมเข้ม PDPA

23 ก.ค. 6815:31 น.
PDPC หารือภาครัฐ – ภาคเอกชนปิดช่องโหว่สแกนม่านตา ลุยตรวจสอบแพลตฟอร์มดิจิทัล คุมเข้ม PDPA

สารบัญประกอบ

    สคส. ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน หามาตรการอุดช่องโหว่ PDPA หลังประชาชนแห่สแกนม่านตาแลกสินทรัพย์ดิจิทัล เร่งคุมเข้มการเก็บ-ใช้ข้อมูลชีวมิติ ท่ามกลางกระแสห่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

    พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดเผยว่า สคส. จัดประชุม ร่วมกับหน่วยงาน สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA), สำนักงาน ก.ล.ต., สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ,กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ศูนย์ PDPC Eagle Eye และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ทีไอดีซี เวิลด์เวิร์ส จำกัด, บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด, บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันตรวจสอบ ติดตามและวางแนวทางร่วมกัน หลังเกิดเหตุการณ์ที่มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วม กิจกรรม “สแกนม่านตาเพื่อรับสินทรัพย์ดิจิทัล”

    PDPC ถกหามาตราการลวง “สแกนม่านตา” เล็งตรวจสอบแพลตฟอร์มขึ้นทะเบียนหรือไม่

    ซึ่งมีการวางกรอบมาตรการที่ชัดเจนต่อการใช้ข้อมูลชีวมิติ (biometric data) เพราะข้อมูลม่านตา ซึ่งถือว่าเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA)  โดย สคส. จะเข้าตรวจสอบขั้นตอนการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลและการแจ้งวัตถุประสงค์และสิทธิในการเพิกถอนข้อมูล หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย PDPA ทันที ด้าน ETDA ร่วม PDPC Eagle Eye  จะตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มที่ใช้อยู่ใน world app ได้ผ่านการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามเกณฑ์จะต้องยุติการใช้งาน และ กลต. จะตรวจสอบหากพบว่ามีการใช้แอปต่างประเทศเพื่อหารายได้ในระบบ จะดำเนินการตามระเบียบกฎหมายตลาดทุน ส่วนตำรวจไซเบอร์ จะดำเนินคดีในทันที หากพบการนำข้อมูลชีวมิติไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือมีการหลอกลวงให้สแกนม่านตาโดยจงใจ

    PDPC ถกหามาตราการลวง “สแกนม่านตา” เล็งตรวจสอบแพลตฟอร์มขึ้นทะเบียนหรือไม่

    พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญของ สคส. และหน่วยงานพันธมิตรรัฐในการสร้างกลไกร่วมดูแลการใช้เทคโนโลยีชีวมิติในภาคประชาชน เน้นย้ำว่า “เทคโนโลยีต้องไม่ละเมิดสิทธิ” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลต้องอยู่ภายใต้ความยินยอมที่แท้จริง” การสแกนม่านตา หรือการใช้ข้อมูลชีวมิติในอนาคต ไม่ว่าจะในรูปแบบ Digital ID, AI-based KYC หรือ Blockchain-based Identity จะต้องได้รับการกำกับดูแลอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบนิเวศดิจิทัลไทยต่อไป

    PDPC ถกหามาตราการลวง “สแกนม่านตา” เล็งตรวจสอบแพลตฟอร์มขึ้นทะเบียนหรือไม่

    หากประชาชนหรือผู้ประกอบการมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือต้องการแจ้งเหตุอันอาจละเมิดสิทธิ สามารถติดต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.)
    โทร. 02-111-8800 หรือทางอีเมล saraban@pdpc.or.th

    สารบัญประกอบ