“อาร์ตทอย”บูม สนค.หนุนพัฒนาอุตสาหกรรมของเล่นไทย

เศรษฐกิจ
24 เม.ย. 67
15:05
259
Logo Thai PBS
“อาร์ตทอย”บูม สนค.หนุนพัฒนาอุตสาหกรรมของเล่นไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อาร์ตทอยทั่วโลกโตพุ่ง สนค.ชี้สินค้ายอดนิยมเจน z คนดัง-เซเลปนิยมซื้อสะสม แนะผู้ประกอบทำการตลาด ดันอุตสาหกรรมของเล่น หนุนศิลปินไทยผลิตผลงานต่อเนื่อง เพิ่มรายได้เข้าประเทศ

วันนี้ (24 เม.ย.2567) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า กระแสนิยม อาร์ตทอย (Art Toy) ซึ่งเป็นสินค้าของเล่นของสะสมที่ถูกออกแบบจากศิลปินหรือนักออกแบบ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะสมัยใหม่กับของเล่นแบบเดิม ทำมาจากวัสดุหลากหลายชนิด เช่น พลาสติก ไวนิล ไม้ เหล็ก ผ้ากำมะหยี่และเรซิน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

จุดเด่นของอาร์ตทอยจะเน้นการสร้างสรรค์ตัวละครแบบไม่ต้องมีเนื้อเรื่อง แต่มีรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ ผลิตในจำนวนที่จำกัด ทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อการครอบครอง และหากเป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงหรือกำลังอยู่ในกระแส ความต้องการยิ่งเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ผู้ผลิตยังได้เพิ่มเสน่ห์การขายในรูปแบบกล่องสุ่ม (Blind Boxes) เป็นการสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ซื้อจากการแกะกล่องที่ไม่ทราบว่าจะเป็นอาร์ตทอยในรูปแบบใด จนเกิดกระแสนิยมในสไตล์ป๊อปคัลเจอร์ (POP Culture) หรือวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ผอ.สนค. กล่าวต่อว่า ตลาดอาร์ตทอยมีการเติบโตอย่างมากในช่วง10ปีผ่านมา จากเดิมเป็นเพียงสินค้าที่นิยมเฉพาะกลุ่ม จนขยายวงกว้างเป็นปรากฎการณ์ที่นิยมในปัจจุบัน โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม Gen Z กลุ่มพนักงานออฟฟิศ (White-Collar) ที่มีอายุระหว่าง 15-40 ปี และกว่าร้อยละ 70 เป็นผู้หญิง เนื่องจากมีความหลงใหลชื่นชอบสินค้าที่มีรูปแบบน่ารักและน่าสะสม

ข้อมูลจาก HTF Market Intelligence ที่เป็นบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำของโลก ระบุว่าในปี 2566 มูลค่าตลาดอาร์ตทอยของโลกอยู่ที่ 8,517.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 4.26 จนมีมูลค่าสูงถึง 10,938.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2573 ซึ่งตลาดอาร์ตทอยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ และยุโรป

ศูนย์กลางของการผลิตและสะสมอาร์ตทอย คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เฉพาะจีน มีตลาดและฐานการผลิตอาร์ตทอยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จีน มีร้านค้าปลีกมากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน และกระจายไปกว่า 100 แห่งทั่วโลกรวมถึงไทย

ผอ.สนค.กล่าวว่า ข้อมูลของสำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า มากกว่าร้อยละ 80 ของอาร์ตทอยทั่วโลกถูกผลิตในจีน โดยหนึ่งในสามผลิตในเมืองตงก่วน มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งในปี 2565 มีบริษัทขนาดใหญ่กว่า 87 แห่งในเมืองตงก่วน ผลิตของเล่นประเภทอาร์ตทอย และสร้างมูลค่าผลผลิตทางอุตสาหกรรมกว่า 16,660 ล้านหยวน (2,479 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขยายตัวจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 29.80

ทั้งนี้ อาร์ตทอย เป็นส่วนหนึ่งของสินค้าในหมวดของเล่น (พิกัดศุลกากร 9503) โดยในปี 2566 ตลาดโลกมีความต้องการนำเข้ารวมเป็นมูลค่า 50,044.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับประเทศไทย มีมูลค่าการนำเข้า 128.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.79 จากปีที่ผ่านมา ที่มีมูลค่า 114.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยนำเข้าของเล่น (รวมอาร์ตทอย) สูงสุดจาก 3 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ขณะเดียวกัน ไทยมีมูลค่าการส่งออกที่ 251.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 ลดลงร้อยละ 9.87 จากปีที่ผ่านมา ที่มีมูลค่า 278.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ไทยส่งออกของเล่น (รวมอาร์ตทอย) สูงสุด 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร มีการคาดการณ์ว่าไทยจะเป็นตลาดศักยภาพที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มสินค้าอาร์ตทอยจากกลุ่มผู้ซื้อที่มีจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังมีพฤติกรรมการซื้อแบบสะสมครบทุกเซต ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ที่ซื้อเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น

ศิลปินและนักออกแบบอาร์ตทอยของไทยมีผลงานสร้างชื่อเสียงระดับโลก นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อผลงานอาร์ตทอยที่สามารถขยายตลาดไปได้ทั่วโลก เพราะอาร์ตทอยไม่ได้เป็นเพียงของเล่นหรือของสะสม แต่เป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้ซื้อสามารถนำมาใช้ประดับตกแต่งภายในที่อยู่อาศัย ถือเป็นงานศิลปะที่บ่งบอกรสนิยม

อย่างไรก็ตาม อาร์ตทอยนับเป็นสินค้าที่น่าจับตามอง จากแนวโน้มการขยายตัวของ ตลาดอาร์ตทอยของโลกและการนำเข้าสินค้าอาร์ตทอยที่เพิ่มขึ้นของไทย แสดงให้เห็นถึงโอกาสทางการค้าของทั้งศิลปินและผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

 การสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมไทยในการออกแบบ นำความเชื่อมาเป็นส่วนประกอบในการออกแบบ เช่น อาร์ตทอยพระพิฆเนศ และอาร์ตทอยแมวกวัก ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เสริมความนิยมด้านการท่องเที่ยว และสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของซึ่งจะผลักดันให้อาร์ตทอยรวมถึงอุตสาหกรรมของเล่นไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

อ่านข่าวอื่นๆ:

รุมตอม! ต่างชาติแห่ลงทุนในไทย ไตรมาสแรกทะลุ 3.5 หมื่นล้าน

พลิกบวก! ทองคำวันนี้ราคาขยับ 250 บาท แนะรอช้อนซื้อรอบใหม่

นายกฯ ถก 4 แบงก์ใหญ่หาช่องลดดอกเบี้ย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง