หลายจังหวัดในภาคอีสานยังสั่งเฝ้าระวังพายุ “หวู่ติ๊บ”

ภูมิภาค
1 ต.ค. 56
08:23
24
Logo Thai PBS
หลายจังหวัดในภาคอีสานยังสั่งเฝ้าระวังพายุ “หวู่ติ๊บ”

แม้พายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ "จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น แต่ยังส่งผลกระทบกับหลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงสั่งเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

อิทธิพลจากพายุหวู่ติ๊บ ทำให้มีเมฆปกคลุมท้องฟ้าและมีฝนตก ใน จ.หนองคาย, จ.เลย และ จ.หนองบัวลำภู ตั้งแต่เมื่อคืน วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก ท่ามกลางการเตรียมรับมือ กับสถานการณ์น้ำท่วมของแต่ละจังหวัดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ จ.หนองคาย ยังเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.บุรีรัมย์ ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านสวายสอ ต.ชุมแสง อ.กระสัง ยังถูกน้ำท่วมอาคารเรียนสูงกว่า 1 เมตร จนต้องหยุดการเรียนการสอนนานกว่า 1 สัปดาห์ ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นทำให้ทางโรงเรียนต้องเลื่อนการสอบวัดผล ปลายภาคการเรียนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ส่วนเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ชาวชุมชนศิริทรัพย์ทวีโชค สามารถกลับเข้าสำรวจบ้านเรือนได้บ้างแล้ว หลังระดับน้ำลดลง เหลือเพียงท่วมขังภายในตัวบ้าน และถนนประมาณ 20 เซนติเมตร แต่ยังมีอีกหลายชุมชนที่อยู่ติดห้วยสำราญ ยังถูกน้ำท่วมสูง และต้องอาศัยในศูนย์ที่พักพิงชั่วคราวทั้ง 12 แห่ง

ขณะที่ภาคเหนือ น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ยังคงไหลเข้าท่วมในเทศบาลตำบลทับคล้อ  อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร อย่างต่อเนื่องสูง 20-30 เซนติเมตร ตลาดในย่านเขตเศรษฐกิจต้องปิดกิจการ ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

เช่นเดียวกับ จ.นครสวรรค์ น้ำยังคงท่วมขยายวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ และเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ชาวบ้านต้องเร่งขนทรัพย์สินไว้ที่สูง

ส่วนที่ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถปิดคันกั้นน้ำ ที่แตกบริเวณบ้านน้ำลัด ต.วังพิกุล อ.วังทองได้ จึงทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวเป็นบริเวณกว้าง

นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักใน จ.ตาก ทำให้เกิดดินถล่มปิดทับเส้นทางสายเมืองตาก-แม่สอด และแม่สอด -อุ้มผาง หลายจุด เจ้าหน้าที่แขวงการทาง ต้องเร่งเข้าไปเปิดเส้นทาง พร้อมเตือนประชาชนที่สัญจร เพิ่มความระมัดระวัง

เช่นเดียวกับ จ.น่าน ฝนที่ตกหนักทำให้ดินถล่มปิดทับเส้นทางสายบ้านกอก-บ้านผาสุก และสายบ่อเกลือ-พระตำหนักภูฟ้า อ.บ่อเกลือ จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าไปซ่อมแซมได้เนื่องจากมีฝนตกหนัก

ส่วนที่ภาคใต้ที่ จ.กระบี่ ระดับน้ำในคลองสายต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังฝนหยุดตก แต่ยังคงประกาศเตือนผู้ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 8 อำเภอ ให้เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตก ขณะที่การเดินเรือเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ไปจนถึงวันที่ 3 ตุลาคม


ข่าวที่เกี่ยวข้อง