"ถาวร" ชี้ชัยชนะกปปส. "นายกฯลาออก-ตั้งสภาปชช."

การเมือง
9 ธ.ค. 56
02:22
45
Logo Thai PBS
"ถาวร" ชี้ชัยชนะกปปส. "นายกฯลาออก-ตั้งสภาปชช."

"ถาวร เสนเนียม" ชี้ ชัยชนะเคลื่อนมวลชนไปทำเนียบฯ "นายกฯ-รมต." ลาออก โดยไม่รักษาการ ย้ำส.ส.ประชาธิปัตย์ลาออกยกพรรค เพื่อคัดค้าน และแสดงจุดยืนไม่ต้องการร่วมบริหารประเทศกับรัฐบาล รวมถึงต้องการคืนอำนาจให้ประชาชน

นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สงขลา และหนึ่งในแกนนำกลุ่มกปปส. กล่าวถึงการลาออกของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ทั้งพรรค เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) เพื่อเดินนำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เป็นการทำเพื่อคัดค้าน และแสดงจุดยืนว่า รัฐสภานั้นไม่พร้อมทำหน้าที่ให้ประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการร่วมบริหารประเทศร่วมกับรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา มีการผลักดันการออกกฏหมายนิรโทษกรรม โดยยกโทษให้กับผู้กระทำความผิดคอรัปชัน, การดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุน และการไม่แก้ปัญหาราคายางให้ชาวสวน หรือการแก้รัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของส.ว. ที่จะนำไปสู่การขาดดุลยภาพในการบริหารประเทศ ตลอดจนการเสียงข้างมาในสภานั้นสามารถทำตามคำสั่งของนักการเมือง 4 คน นอกจากนี้ การลาออกยกพรรคนั้น เปรียบเสมือนการคืนอำนาจให้ประชาชน 

 
ทั้งนี้ สาเหตุที่พรรคไม่ยอมรับ 3 ทางออกของรัฐบาลที่ระบุว่า พร้อมจะยุบสภา, ลาออก และทำประชามติ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการซื้อเวลา เพราะการทำประชามตินั้น ต้องใช้เวลานาน และต้องเจาะลึกรายละเอียด ซึ่งขณะนี้เห็นว่าประชาชนที่ออกมาต่อต้าน รวมทั้งที่ไม่มีออกมา น่าจะเพียงพอให้เห็นถึงปัญหาของการบริหารงานของรัฐบาลแล้ว ขณะเดียวกัน การอ้างว่า สภาประชาชนไม่เป็นตามบทบัญญัติตามมาตรานั้น เป็นการอ้างเพื่อยึดติดกับการอำนาจมากกว่า 
 
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของการเดินขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (9 ธ.ค.) อยู่ที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งทุกคน โดยไม่รักษาการ และทำการยุบสภา โดยต้องทำควบคู่กันทั้ง 2 อย่าง เพื่อเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนตามมาตรา 3 จากนั้น จะมีการสรรหา "ผู้ทำหน้าที่" นายกรัฐมนตรี ตามมาตร 7 ซึ่งถือว่าเป็นเทคนิคของการใช้ช่องโหว่งของกฏหมายที่จะไม่ให้ผู้ตำรงตำแหน่งนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี และเห็นว่า การมาของสภาประชาชนตามมาตรา 3 และ 7 นั้น คล้ายคลึงกับการรัฐประหารของทหาร ที่ยึดอำนาจ และตั้งคณะ เพื่อสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งต่อไป 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง