ตร.เร่งส่งดีเอ็นเอแม่ "เซลส์สาว" เทียบโครงกระดูกพบในรถเก๋ง

วันนี้ (12 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน สภ.หนองโดน จ.สระบุรี เร่งส่งดีเอ็นเอของนางลั่นทม วงษ์สิงห์ ที่เก็บจากกระพุ้งแก้ม นำไปเทียบเคียงกับดีเอ็นเอจากโครงกระดูกที่พบในรถยนต์เก๋ง เพื่อพิสูจน์ว่าโครงกระดูกเป็นของ น.ส.กลิ่นเกษร เซลล์สาวขายปุ๋ยที่หายตัวนาน 3 ปี ก่อนพบอีกครั้งเป็นศพในรถยนต์เก๋งจมน้ำ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำดีเอ็นเอไปที่กองพิสูจน์ 1 สพฐ 1 จ.ปทุมธานี ส่วนพนักงานสอบสวนได้ประสานให้นายสุระเดช ปรางค์ทอง มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าไปถึงรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวเป็นคนแรก เพื่อสอบสวนว่ามีการพบหลักฐานอื่นใดที่พอจะสืบไปถึงผู้ที่ก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.กลิ่นเกษร ต่อไปได้

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก ภ.จว.สระบุรี ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแม่ของ น.ส.กลิ่นเกษร, ผู้ต้องสงสัย, พยาน และผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก, นำวัตถุพยานต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ ส่งตรวจพิสูจน์หาร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์, ลายนิ้วมือแฝง และตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อนำมาประกอบในสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผบก.ภ.จว.สระบุรี ประชุมเร่งรัดคดี บ่ายนี้

ทั้งนี้ ในวันนี้ เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ประชุมเร่งรัดคดีดังกล่าว ที่ สภ.พระพุทธบาท อีกทั้งคดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไล่กล้องวงจรปิดและสอบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องไปกว่า 10 ปาก พร้อมทั้งนำกระโหลกของ น.ส.กลิ่นเกษร ไปตรวจพิสูจน์ เพื่อเปรียบเทียบยืนยันว่าตรงกับนางลั่นทมหรือไม่ และนำวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ ส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาตร์ ซึ่งยังคงต้องรอผลยืนยันจากทางแพทย์ เพื่อนำมาประกอบในการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยจากศาล ขอให้รอรับฟังข้อมูลจากทางราชการเท่านั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนแก่ประชาชนและสังคม

ตร.ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รอผลชันสูตรก่อน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อและยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป จนกว่าจะได้รับผลการชันสูตรพลิกศพจากทางแพทย์ เพื่อระบุสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแท้จริงและประเด็นอื่นๆ ที่เกิดข้อสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่เกิดขึ้นโดยเร็ว ขอให้ประชาชนเข้าใจมั่นใจขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนและพิสูจน์ทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าดำเนินการตามพยานหลักฐาน ภายใต้กรอบระยะเวลาและกฎหมาย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกันคดีนี้ โดยได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว สิ้นกระแสความในทุกประเด็นที่มีข้อสงสัย คำถาม หรือเงื่อนงำต่างๆ ในคดี โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่างๆ เป็นสำคัญ ดำเนินการด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องสามารถตอบคำถาม ข้อสงสัยของสังคมได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน