วันนี้ (22 มิ.ย.2563) นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ระบุว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 จะเบาบางลง แต่ปัญหาสังคมกลับพบว่ามีเพิ่มมากขึ้น ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีผู้มาขอคำปรึกษาจากมูลนิธิฯ มากกว่าปกติถึงร้อยละ 20 คาดว่าเกิดจากสถานการณ์ที่รัฐบาลล็อกดาวน์ ส่งผลให้หลายครอบครัวมีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น
นอกจากนี้ การปิดเมืองก็ส่งผลทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก บางครอบครัวประสบปัญหาหนี้สิน หรือถูกให้ออกจากงาน จนเกิดความเครียดสะสม อีกด้านทัศนคติชายเป็นใหญ่จึงเป็นที่มาของการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รุนแรงถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิต และคาดว่าความรุนแรงในครอบครัวจะมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยจะเห็นภาพชัดขึ้นเมื่อสิ้นสุดมาตรการได้รับเงินเยียวยาจากภาครัฐบาล

นายจะเด็จ เสนอให้รัฐบาลใช้กลไกแก้ปัญหา คือ บังคับใช้กฎหมายข่มขืนและกฎหมายความรุนแรงในครอบครัวอย่างเข้มงวด, เพิ่มมาตรากรรองรับการร้องทุกข์ โดยการเพิ่มคู่สายให้คำปรึกษา 1300 และจัดให้มีอาสาสมัครเฝ้าระวังปัญหาความรุนแรงในครอบครัว โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด