"สิริพงศ์" แนะจัดงบฯ เพียงพอต่อภารกิจสู้โควิด อย่าพึ่งเงินกู้- งบกลาง

วันนี้ (1 มิ.ย.2564) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2565 โดยระบุว่า การจัดสรรงบฯ ปี 2565 ไม่เหมาะสม แม้แต่เงินเดือนข้าราชการยังจ่ายไม่พอใช้ ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ทำรายได้ให้ประเทศมากที่สุดติด 1 ใน 5 กลับถูกหั่นงบฯ โดยเฉพาะ ททท.ถูกตัดไป 40%

ปลายปีนี้เป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว แต่วันนี้ ททท.ไม่มีงบฯ ที่จะไปโปรโมต โดยเฉพาะในภาวะที่ไม่ปกติ และต้องมีการประชาสัมพันธ์เฉพาะกลุ่มประเทศ เนื่องจาก COVID-19

นายสิริพงศ์ ระบุอีกว่า งบฯ จังหวัดถูกตัดงบ โดยอ้างว่า ภารกิจซ้ำซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยปีนี้ได้งบฯ มา 170 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วด้วย ต้องบอกว่า "ปีที่แล้วผิดพลาดอย่างไร ปีนี้ก็ยังผิดพลาด" 

งบฯ จังหวัด และกลุ่มจังหวัดลดลง 25% เพราะจะกระจายอำนาจ แต่งบฯ ท้องถิ่นกลับลดลงด้วยและลดลงถึง 14% อย่างไรก็ตาม วันนี้ท้องถิ่นมีความพร้อม เพราะมีเงินสะสม ประชาชนเรียกร้องให้นำเงินไปซื้อวัคซีน แต่กลับเป็นงูกินหาง เพราะคนที่ตัดสินใจได้ไม่ใช่ท้องถิ่นแต่เป็น ศบค. "นี่แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้กระจายอำนาจอย่างแท้จริง"

นายสิริพงศ์ ยังกล่าวถึงงบประมาณที่จัดสรรให้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกระทรวงที่คนตั้งความหวังอย่าง งบฯ กระทรวงสาธารณสุขให้เงินเดือน อสม.ไว้ 6,000 ล้านบาท แต่ อสม.มีค่าตอบแทน 1,000 บาท 1 ล้านอัตรา 1 เดือน ใช้เงิน 1,000 ล้านบาท 1 ปี ใช้เงิน 12,000 ล้านบาท แล้วจัดสรรมาให้ 6,000 ล้านบาท

ส่วนอีก 6,000 ล้านบาท มาจากเขตสาธารณสุขอีก 12 เขต หารมาเขตละ 500 ล้านบาท ฉะนั้น ที่มี ส.ส.บอกว่า โรงพยาบาลบางแห่งต้องการหอพักพยาบาล หรือลานจอดรถ คงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะถูกหักเงินมาโปะให้ อสม.

นี่คือการจัดสรรภารกิจแต่ไม่จัดสรรงบฯ ให้เพียงพอ ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาตลอดกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมีมาโดยตลอด ปีที่แล้วเงินโรงเรียนต้องอุดหนุนเขา 100 บาท ให้เขาไป 80 บาท ที่เหลือให้ท้องถิ่นหาเอา

ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ยังระบุว่า การจัดสรรงบฯ แต่ละปีไม่สอดคล้องกับภารกิจของแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะงบฯ เกี่ยวกับ COVID-19 ได้มา 15,000 ล้านบาท แต่งบฯ วัคซีนกลับไม่ให้ใช้งบประมาณประจำ โดยให้ไปใช้งบกลาง หรืองบฯ เงินกู้ ซึ่งเป็นการจัดสรรที่ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทำงาน

นายสิริพงศ์ ยังตั้งคำถามกับรัฐบาลถึงความคืบหน้า "ค่าเสี่ยงภัยบุคลากรทางการแพทย์" ที่ได้ขอตั้งแต่ มี.ค. - ก.ย.2563 ปีนี้ปีงบฯ 2564 ซึ่งประเด็นทั้งหมดล้วนเกิดจากการไม่นำงานที่ควรจะเป็นงานประจำไปใส่ในงบฯ ภารกิจอื่น อย่างงบฯ สร้างห้องความดันลบ รัฐบาลบอกให้รอเงินกู้ แต่เงินกู้ต้องรอออกเป็นก้อน ไม่ใช่การทยอยจ่ายซึ่งอาจทำให้การสร้างห้องไม่ทันตามความต้องการของผู้ป่วย

นี่คือความผิดพลาดในการจัดสรรงบไม่เพียงพอ ความคุ้นเคยเป็นมิตรอย่างยิ่ง แต่ความเคยชินจะเป็นภัยอย่างใหญ่หลวง ฝากสำนักงบฯ ว่าอย่าให้ความเคยชินมาเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศเรา