"มิ่งขวัญ" ขอนายกฯ ลาออก ชี้ทำงบขาดดุล 8 ปี เกิน 4 ล้านล้านบาท

การเมือง
2 มิ.ย. 64
19:53
369
Logo Thai PBS
"มิ่งขวัญ" ขอนายกฯ ลาออก ชี้ทำงบขาดดุล 8 ปี เกิน 4 ล้านล้านบาท
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ขอนายกรัฐมนตรีลาออก ชี้หาเงินไม่เก่ง-จ่ายเกินตัว พบ 8 ปี ทำงบขาดดุลต่อเนื่องสูงสุดเกินกว่า 4 ล้านล้านบาท

วันนี้ (2 มิ.ย.2564) เวลา 18.30 น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ว่า ปี 2563 น่าจะเป็นบทเรียนของรัฐบาลไทยเพราะระหว่างปี 2563 ได้ทำงบประมาณประจำปี 2564 ซึ่งสถานการณ์ COVID-19 ระบาดรุนแรง และอาจต้องปิดประเทศอีก 1-3 ปี แต่ขอตำหนิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้เฉลียวใจ และใช้เงิน 3.28 ล้านล้านบาท อีกทั้งยังเชื่อว่าจะจัดเก็บรายได้ถึง 2.67 ล้านล้านบาท แต่ในช่วง 7 เดือน (ต.ค.63-เม.ย.64) จัดเก็บรายได้เพียง 1.22 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 45.78%

ปีงบประมาณ 64 ได้รับบทเรียนมาจากปี 63 แต่ท่านไม่ได้ตระหนักถึงการออกงบประมาณที่สมเหตุสมผลในการใช้จ่าย ถ้าเป็นธุรกิจเจ๊งครับ ถ้าเป็นประเทศก็เจ๊งเหมือนกัน

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า รายได้อันดับ 1 ของไทยตลอดหลายสิบปีมาจากการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวประมาณการณ์ 40 ล้านคน ยอดรายได้ 2 ล้านล้านบาท แต่เดือน ม.ค.-เม.ย.2564 มีคนเข้าไทยเพียง 28,701 คน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดเก็บรายได้เข้าประเทศ


ส่วนงบประมาณประจำปี 2565 งบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท รายได้ที่จัดเก็บ 2.4 ล้านล้านบาท และงบขาดดุล 700,000 ล้านบาท ตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ตั้งงบประมาณดูเหมือนจะลดลง แต่เป็นนิติกรรมอำพราง เพราะงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท มีค่าใช้จ่ายประจำอยู่ที่ 80% เหลือ 20% หากจะลดลงมางบประมาณควรอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านบาท เพื่อให้ขาดงบดุลลดลง

นายมิ่งขวัญ ระบุว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำงบประมาณที่สูงสุดในปีที่ COVID-19 วิกฤตที่สุด เป็นงบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ของการเงินไทย คือปี 2564 งบประมาณ 3.28 ล้านล้านบาท

 

ส่วนงบขาดดุลสูงสุดปี 2565 จำนวน 700,000 ล้านบาท หากจัดเก็บรายได้ไม่ถึงเป้าหมายเพียง 300,000 ล้านบาท ยอดงบขาดดุลจะเสียหายถึง 1 ล้านล้านบาท

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาจาก คสช.ที่เริ่มทำงบฯ ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงวันนี้ครบ 7 ปี กำลังทำงบฯ ปีที่ 8 แต่ท่านทำงบขาดดุลต่อเนื่องสูงสุดเกินกว่า 4 ล้านล้านบาท

นายมิ่งขวัญ ยังอภิปรายถึงการหดตัวของเงินออมของคนไทย โดยเปรียบเทียบในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 อยู่ที่ -1.7% วิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ หรือที่คนไทยเรียกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในปี 2551 อยู่ที่ -2.9% และ COVID-19 ปี 2563 อยู่ที่ -8.5%

 

นายมิ่งขวัญ กล่าวปิดท้ายว่า "รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หาเงินเข้าประเทศไม่เก่ง ยิ่งเจอโควิดยิ่งหาไม่ได้ ท่านจ่ายเงินเกินตัว จึงก่อให้เกิดหนี้มหาศาล เศรษฐกิจทั้่งระบบพังแน่นอน อยู่มา 7 ปีเศษ ได้พิสูจน์แล้วว่า ท่านอาจเป็นทหารที่เก่ง แต่ท่านไปไม่รอด ประเทศไทยได้เวลาเปลี่ยนแปลงแล้วครับ เปลี่ยนรัฐบาล ผมกราบให้ท่านนายกฯ ลาออก ให้คนอื่นขึ้นมา ท่านจบอย่างสวยงามครับ ท่านเป็นชายชาติทหาร อีกไม่นานเราก็ไปแล้ว ไปหมายถึงทุกคนต้องตาย ให้เขาจดจำท่านในภาพดี ๆ ว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พูดยังก้องอยู่ในหัวเลย ผมพอแล้ว ท่านอยู่ในสถานการณ์นี้ ประเทศนี้ไม่รอดหรอกครับ"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง