เช็กราคาสินค้าเกษตร ธ.ก.ส.คาดการณ์ ธ.ค.64

เศรษฐกิจ
8 ธ.ค. 64
06:37
523
Logo Thai PBS
เช็กราคาสินค้าเกษตร ธ.ก.ส.คาดการณ์ ธ.ค.64
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. ชี้ความต้องการสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ การจับจ่ายภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรเดือน ธ.ค.64 ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพาราแผ่นดิบ มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2564 นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือน ธันวาคม 2564 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 7,736 - 7,944 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.44 - 3.14 เนื่องจากราคาข้าวขาวของประเทศไทยในตลาดโลกสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ ประเทศผู้นำเข้าในแถบทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชีย และตะวันออกกลาง ยังมีความต้องการข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อไว้ใช้ในช่วงเทศกาลปลายปี

ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 9,750 - 9,768 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 3.91 - 4.10 เพราะฮ่องกงซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิรายใหญ่ของประเทศไทยเร่งนำเข้าข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่เพื่อใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาอยู่ที่ 8.76 - 8.85 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.60 - 1.60 เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากเดือนก่อน

ขณะที่ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตอาหารสัตว์ยังคงเพิ่มขึ้นตามความต้องการบริโภคและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ ยางพารา มันสำปะหลัง กุ้งขาวเเวนนาไม มีเเนวโน้มราคาดี

เเต่สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 7,263 - 7,395 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.75 - 2.52 เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวนาปีออกสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมามากเกินความต้องการใช้ข้าวเหนียว

เช่นเดียวกับปาล์ม น้ำมัน ราคาอยู่ที่ 7.88 - 8.38 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 3.90 - 9.63 เนื่องจากมาตรการภาครัฐ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสกัดตรึงราคาน้ำมันปาล์มดิบ เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดปรับตัวสูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภคโดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหาร

และผู้บริโภคในครัวเรือนที่ได้ผลกระทบหลัก เป็นต้น เเม้เเนวโน้มบางรายการที่ลดลง เเต่ก็ถือว่ายังสูงกว่าราคาที่รัฐประกันรายได้ไว้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง