“ชุดลาดตระเวนออนไลน์” บก.สส.บช.น. รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ว่าญาติของเขาเป็นผู้หญิง พร้อมลูก และเพื่อนรวม 5 คน ถูกบังคับทำงานอยู่ในห้องพักคอนโดมิเนียมย่านพระราม 8 ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดยถูกทำร้ายอย่างทารุณ พร้อมส่งรูปภาพสภาพร่างกายถูกโกนผมและมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก
หลังได้รับแจ้งตำรวจเร่งตรวจสอบจนทราบถึงสถานที่ที่ถูกกักขัง พร้อมขอศาลอาญาธนบุรีอนุมัติหมายค้นห้องพักดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และเข้าไปช่วยเหลือผู้เสียหายทั้ง 5 คน เป็นอดีตพยาบาล 3 คน เเละเด็ก 2 คน ในคอนโดดังกล่าว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการเร่งด่วนให้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบห้องพักคอนโดฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งพบผู้เสียหายทั้ง 5 คน ภายในห้อง บางคนมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวกและถูกทำร้ายตามร่างกาย
สอบถามผู้เสียหาย 3 คน เป็นแม่ลูกกัน อยู่ในอาการหวาดกลัว ให้ข้อมูลว่าถูกบังคับให้ทำงานหาเงินใช้หนี้ให้กับ “นายทุน” ที่อ้างเป็นแพทย์ลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น ทำงานสถานทูต โดยมีลูกน้อง 1 คน เป็นคนคอยมาควบคุม จากการตรวจสอบสภาพผู้เสียหายมีความผิดปกติ
ตำรวจได้สอบผู้เสียหายทีละคน โดย 3 คน เป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ลาออกและมาทำธุรกิจร่วมกับนายทุนที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้คลั่งลัทธิ โดยนายทุนใช้อุบายหลอกลวงทั้ง 3 คน มาลงทุนเเละทำทีรวบรวมเงินไว้ที่นายทุนเมื่อธุรกิจเริ่มขับเคลื่อน เเละใช้ความกลัวเข้ากดขี่ เช่น หลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ, ลูกค้าเรียกเงินคืน, ฝากลูกเข้าโรงเรียนดัง
จากนั้นนายทุนจะอุปโลกน์หนี้ให้กับทั้ง 3 และหลอกว่ารู้จักกับตำรวจจะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ทำให้เกิดความกลัวและยอมทำงานใช้หนี้มากว่า 3 ปี ล่าสุดทั้ง 3 เข้าใจว่าตนเองตกเป็นหนี้นายทุนถึง 140 ล้านบาท ทั้งที่ถูกนายทุนหลอกลวงทรัพย์สินไป รวมความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่นำตัวผู้เสียหายและเด็กเข้ารับรักษาที่ รพ.ตร.
ล่าสุดตำรวจจับกุมตัวนายฮารุ อายุ 39 ปี และนายตรีเพชรรัตน อายุ 20 ปี ผู้ต้องหากักขังทั้ง 5 คน โดยวันนี้ (18 ต.ค.) จะแถลงข่าวชี้แจงอีกครั้ง