ผบ.ตร.สั่ง "จ่าเบิร์ด" ออกจากราชการ เร่งสอบปมพกปืนเข้าผับ

อาชญากรรม
25 ต.ค. 65
19:41
402
Logo Thai PBS
ผบ.ตร.สั่ง "จ่าเบิร์ด" ออกจากราชการ เร่งสอบปมพกปืนเข้าผับ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่ง จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ออกจากราชการ หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคนเสียชีวิตกลางผับใน จ.ตรัง พร้อมสั่งตรวจสอบปมพกอาวุธปืนราชการไปผับ

จากกรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มิลลิเมตร ซึ่งอยู่ในอาการเมา ยิงนายจิตกร คงจันทร์ หรือ ขาว 9 นัด เสียชีวิต ยิงเพื่อนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และมีนักท่องเที่ยว ถูกลูกหลง บาดเจ็บอีก 1 คน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไป

ผู้ก่อเหตุเป็นผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง และปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการ ชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) หรือ หน่วยสวาท เข้ามาดื่มกับเพื่อนตำรวจอีก 1 นาย โดยทั้ง 2 คน เคยเป็นการ์ดของร้านนี้ และเพิ่งลาออกไปได้ 1 เดือน ส่วนผู้เสียชีวิต เป็นคนสนิทนักการเมืองท้องถิ่น และเป็นคนมีชื่อเสียง ใน จ.ตรัง นั่งกินดื่มอยู่ในร้าน


สำหรับสาเหตุเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบสวน ตำรวจพบว่า ทั้งสองฝ่าย มีเรื่องกันในสถานบันเทิง แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดกระทบกระทั่งกัน ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ตำรวจเชื่อว่า ไม่ซับซ้อน เพราะมีพยานเห็นเหตุการณ์

ส่วนตำรวจที่ก่อเหตุพกปืนเข้าไปในสถานบันเทิงได้อย่างไร เจ้าของผับ อ้างว่า ปกติจะตรวจอาวุธนักท่องเที่ยวก่อนเข้าร้านทุกคน มีกล้องวงจรปิดทุกจุด และมีการ์ดหน้าร้าน แต่เมื่อคืน เห็นว่า ตำรวจที่ก่อเหตุ ซึ่งเคยเป็นการ์ดของร้าน นิสัยดี จึงเชื่อว่า "จะไม่พกพาอาวุธเข้ามา ทำให้เจ้าของร้านหนักใจ" จึงไม่ได้ตรวจอาวุธผู้ก่อเหตุ

ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังตอบไม่ได้ว่า เหตุใดผู้ก่อเหตุจึงพกพาปืนราชการ หรือปืนหลวง ไปเที่ยวผับ แต่สั่งให้ออกจากราชการพร้อมสั่งให้ตรวจสอบแล้ว เพราะงานของผู้ก่อเหตุ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืน รวมถึงในช่วงเวลาเกิดเหตุ เป็นเวลานอกราชการ และถ้าพบว่าผู้บังคับบัญชาบกพร่อง ก็ต้องลงโทษทางวินัย


ทั้งนี้ เรื่องการพกพาอาวุธปืน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ระบุว่า "จ่าเบิร์ด" สามารถพกพาปืนได้ เพราะเป็นตำรวจชุดสืบสวน และต้องดูว่า การพกปืนครั้งนี้เป็นการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

ส่งกำลัง 50 นาย ติดตามตัว "จ่าเบิร์ด"

อย่างไรก็ตาม ผ่านมาเกือบ 20 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุยังหลบหนีอยู่ ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ไม่ต่ำกว่า 50 นาย ปิดล้อมที่ทำงานหน่วยสวาท หรือ ที่ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง เข้าตรวจค้นสำนักงาน เพื่อจับกุมผู้ก่อเหตุ หลังช่วงแรก มีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุกลับมาที่หน่วย เพื่อนำเสื้อเกราะ และปืนยาว หลบหนีไปด้วย แต่ไม่พบตัว และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องกลับมาเอาอาวุธปืน

ชุดติดตาม แบ่งกำลังไปยังบ้านเกิด ที่อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช และประสานครอบครัว พาจ่าเบิร์ดมอบตัว ส่วนชุดอื่นๆ ไปติดตามที่บ้านเพื่อน และ พื้นที่ที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุจะใช้ซ่อนตัว

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเรียบร้อย ใจเย็น สามารถคุมลูกน้องได้ดี เบื้องต้น มีคำสั่งให้ออกจากราชการ และกำชับกำลังพล ใช้ความระมัดระวังในการติดตามตัว เพราะจ่าเบิร์ด อาจจะมีอาวุธปืน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง