สธ.ชี้ 2-4 สัปดาห์ผู้ป่วยโควิดอาการหนักพุ่งเริ่ม Small wave

สังคม
14 พ.ย. 65
09:13
1,245
Logo Thai PBS
สธ.ชี้ 2-4 สัปดาห์ผู้ป่วยโควิดอาการหนักพุ่งเริ่ม Small wave
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมควบคุมโรค ชี้ Small wave โควิด-19 ระบาดครั้งใหม่มาแล้ว คาด 2-4 สัปดาห์ผู้ป่วยอาการหนักจะเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยที่เริ่มเพิ่มขึ้น ระบุ กทม.-ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว กว่าครึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีน

วันนี้ (14 พ.ย.2565) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทยในสัปดาห์ที่ 45 มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 12.8 เปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตยังมีแนวโน้มคงตัว ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์

ในช่วงเริ่มต้นการระบาดครั้งใหม่ที่มีลักษณะเป็น Small wave หลังจากการปรับให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ 

พบคนติดเชื้อเพิ่มกทม.-ปริมณฑล-จว.ท่องเที่ยว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลเฝ้าระวังโรคจากทั้งผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อที่ดูแลอาการตนเองที่บ้านผ่านทางระบบการรายงานของ สปสช.และเฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงใน 8 จังหวัด

โดยเริ่มพบผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้นทั้งกทม.และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ภาคใต้จังหวัดส่วนใหญ่รับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติเพิ่มขึ้นมีการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมากขึ้นด้วย

แม้ว่าผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตในรอบสัปดาห์ที่ 45 ช่วงวันที่ 6–12 พ.ย.นี้ มากกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นผู้ที่ไม่รับวัคซีนโควิด-19 และไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ทำให้ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค หากติดเชื้อมีโอกาสป่วยหนักได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย และผู้ที่มีโรคประจำตัว

เล็งใช้ LAAB กลุ่มไม่รับวัคซีน

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นอกจากนี้แล้ว เน้นมาตรการตรวจรักษากลุ่ม 608 ที่เริ่มมีอาการป่วย ทั้งมีไข้ ไอ และ ATK พบเชื้อ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโรคโดยเร็ว ทั้งนี้แพทย์อาจพิจารณาให้ LAAB (ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป) โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่อาจจะสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้น้อย

สำหรับคำแนะนำ ในช่วงนี้ ผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีนงดออกจากบ้าน และสมาชิกในครอบครัวที่เป็นกลุ่มวัยทำงาน มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสผู้ติดเชื้อนอกบ้าน เช่น ไปสถานบันเทิง ให้งดใกล้ชิดผู้สูงอายุ และพาพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอาในบ้าน

รวมทั้งเด็กเล็ก เด็กนักเรียน เข้ารับการฉีดวัคซีน ทั้งเข็มแรกหรือเข็มกระตุ้นหากได้รับเข็มสุดท้ายมานานเกิน 4 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนัก และ ลดระยะเวลาการรักษาโรค ที่พ่อแม่ผู้ปกครอง หรือญาติต้องลางานเพื่อดูแลรักษาด้วย

นพ.โสภณ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข เตรียมยา เวชภัณฑ์ วัคซีน และ LAAB ไว้เพียงพอเพื่อรองรับการระบาดของโรคที่กำลังเพิ่มขึ้น รวมทั้งสถานพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศ มีความพร้อมบริการฉีดวัคซีนสามารถสอบถามวันเวลาที่ให้บริการ ก่อนไปรับการฉีดวัคซีนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง