DSI เรียก "นอท กองสลากพลัส" ให้ปากคำฐานะพยาน ปมเงิน 42 ล้าน

อาชญากรรม
5 ม.ค. 66
19:43
443
Logo Thai PBS
DSI เรียก "นอท กองสลากพลัส" ให้ปากคำฐานะพยาน ปมเงิน 42 ล้าน
"ดีเอสไอ" ออกหมายเรียก "นอท กองสลากพลัส" ให้ปากคำฐานะพยาน 13 ม.ค.นี้ พบเงินผิดกฎหมายเข้ามากว่า 42 ล้านบาท และโอนไปยังบุคคลอื่น

วันนี้ (5 ม.ค.2566) ความคืบหน้ากรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายเรียก นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ผู้บริหารบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ เพื่อมาชี้แจงกรณีปรากฎหลักฐานการรับเงินจากกลุ่มขบวนการที่กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ หลายสิบล้านบาท

นายพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด เปิดเผยว่า ได้ออกหมายเรียก นายพันธ์ธวัช ให้มาให้ถ้อยคำในฐานะพยาน วันที่ 13 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งได้ส่งหมายเรียกไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) โดยได้ให้กรอบระยะเวลาในการเตรียมตัวเพื่อมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ และจะยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จนกว่าจะมีการชี้แจงรายละเอียดกับพนักงานสอบสวนแล้วเสร็จ ซึ่งก็จะให้ความเป็นธรรม แต่ต้องชี้แจงเงินที่โอนเข้ามาในบัญชีให้ได้

สำหรับการออกหมายเรียกนายพันธ์วัชครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนและจับผู้ต้องหาในคดีเปิดบัญชีม้ารับฟอกเงินจากกลุ่มผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเมื่อกลางปี 2565 พบว่า มีการโอนเงินไปอีกหลายบัญชี หนึ่งในนั้นพบว่า มีบัญชีของนายพันธ์วัช โอนเข้ามาหลายสิบล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าไม่ใช่เงินที่โอนมาซื้อสินค้า หรือสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงจำเป็นต้องออกหมายเรียกให้มาให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน

สำหรับผู้ที่มีความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินกับขบวนการนี้ ถูกออกหมายเรียกพร้อมกับนายพันธ์ธวัช รวม 7 คน โดยยืนยันว่า เป็นการสอบสวนปกติที่พบหลักฐานเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึง ไม่ได้ตั้งใจพุ่งเป้าไปเฉพาะที่นายพันธ์ธวัช เท่านั้น

ขณะเดียวกัน มีข้อมูลจากคณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด เพิ่มเติมด้วยว่า ขบวนการฟอกเงินดังกล่าว พบว่า เส้นทางการเงินของขบวนการนี้ได้เชื่อมโยงมายังนายพันธ์ธวัช จำนวน ณ ปัจจุบัน กว่า 42 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีกลุ่มอื่นที่มีลักษณะการรับโอนเงินคล้ายกันนั้นก็อยู่ระหว่างการขยายผล

และตามขั้นตอนในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เมื่อนายพันธ์ธวัช เข้ามาพบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งวัตถุประสงค์การออกหมายเรียก อธิบายถึงข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ และขอให้ชี้แจงว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของลูกค้ากลุ่มใด เพราะตามหลักการทำธุรกิจแล้ว ผู้บริหารจะต้องรู้จักกลุ่มผู้บริโภคของตัวเอง เพื่อให้กลับไปรวบรวมเอกสาร

ทั้งรายการเดินบัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง หรือเอกสารสำคัญต่าง ๆ เพื่อนำเข้ามามอบให้พนักงานสอบสวนดีเอสไออีกครั้งตามกรอบระยะเวลาภายใน 15 วัน หรือตามที่บุคคลดังกล่าวแจ้งความประสงค์ เพราะเอกสารอาจมีจำนวนมาก จึงต้องให้เวลาได้ดำเนินการจัดเตรียม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายอนุญาต

ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด กล่าวว่า คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด มั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลมา จนพบว่าบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องแบบไม่ปกติ หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังต้องสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่า มีการโอนเงินออกจากบัญชีออมทรัพย์ของบุคคลดังกล่าว เชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น ๆ อีกหรือไม่ เบื้องต้นยังพบว่า มีเงินจากบัญชีเข้าสู่บัญชีของบุคคลสำคัญรายหนึ่งที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักของคนในสังคมด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“นอท กองสลากพลัส” พร้อมชี้แจง DSI ยืนยันไม่เกี่ยวข้องฟอกเงิน

 DSI ออกหมายเรียกผู้บริหาร "กองสลากพลัส" ชี้แจงเหตุรับเงินขบวนการฟอกเงิน

จับตากรมสรรพากรสอบภาษี-รายได้ "สลากพลัส"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง