ตร.รวบหน.ขบวนการอุ้มบุญรายใหญ่ พบ จนท.เขตบางรักโยงกระทำผิด

อาชญากรรม
11 เม.ย. 66
13:11
558
Logo Thai PBS
ตร.รวบหน.ขบวนการอุ้มบุญรายใหญ่ พบ จนท.เขตบางรักโยงกระทำผิด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา หัวหน้าขบวนการรับจ้างอุ้มบุญรายใหญ่ และอำนวยความสะดวกให้ชาวจีน การเข้าอาศัย และทำธุรกิจในประเทศไทย โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรัก ร่วมกระทำผิดช่วยเหลือและปลอมเอกสารในการเข้าพัก เตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับดำเนินคดี

วันนี้ (11 เม.ย.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เปิดเผย การดำเนินคดี น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล ผู้ต้องหา เป็นหัวหน้าขบวนการรับจ้างอุ้มบุญรายใหญ่ระดับประเทศ ภายหลังตำรวจเข้าตรวจค้น อาคาร 5 ชั้น ย่านสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ

พบมีบุคคลต่างชาติอาศัยอยู่ 7 คน ตรวจสอบภายในพบห้องถูกแบ่งซอย และมีอุปกรณ์สำหรับดูแลหญิงไทยที่รับอุ้มบุญให้กับชาวจีน โดยมี น.ส.นวพร เป็นเจ้าของสถานที่

นอกจากนี้ยังพบแม่อุ้มบุญที่เป็นไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดี การสืบสวนพบว่า แม่อุ้มบุญที่เป็นชาวไทย จะได้ค่าจ้างตั้งครรภ์ครั้งละ 5 แสนบาท โดยมีคนดูแลที่เป็นชาวต่างชาติอยู่ภายในอาคารอย่างใกล้ชิด

สำหรับพฤติกรรมของ น.ส.นวพร ทำหน้าที่ นำรายชื่อบุคคลต่างชาติเข้ามาอยู่ภายในบ้าน โดยใช้วิธีเท็จต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นญาติของตัวเอง รวมทั้งสำแดงเอกสารเท็จ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ย้ายชื่อบุคคลมาอยู่ในทะเบียนบ้านและออกบัตรสีชมพูให้

เนื่องจากนางนวพร มีสัญชาติจีนได้รับสัญชาติไทย จากการแต่งงานกับคนไทย จากนั้นหย่าร้าง และมีสามีใหม่ที่เป็นชาวจีนและมีลูกด้วยกัน 3 คน จึงได้รับสิทธิในการทำธุรกิจในประเทศไทยได้

รอง ผบ.ตร.ยืนยันว่า น.ส.นวพร เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ที่ตำรวจต้องการตัวเพราะกระทำผิดหลายส่วน ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนจีนทำธุรกิจผิดกฎหมายมานานหลายปี โดยมักชอบถ่ายรูปร่วมกับบุคคลที่มีชื่อเสียง และนำไปแอบอ้าง สร้างความน่าเชื่อถือให้กับชาวจีนด้วยกัน ก่อนจะชักจูงให้มาร่วมกระทำผิดในประเทศไทย

นอกจากนี้ ได้ออกหมายจับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรักอีกหลายคน มีส่วนรู้เห็น และให้การช่วยเหลือออกเอกสารเท็จ ในการอยู่อาศัยในพื้นที่ โดยร่วมกันทุจริต เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา น.ส.นวพร ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ร่วมกันแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และร่วมกันปลอมและใช้ดวงตรา หรือแผ่นตรวจลงตราการเดินทางระหว่างประเทศ

พร้อมทั้งประสาน ปปง.ตรวจเส้นทางการเงิน ของนางสาวนวพร ว่าลักษณะความผิดเข้าข่ายมูลฐานความผิดฟอกเงินหรือไม่ เพื่อตรวจยึดอายัดทรัพย์ต่อไป

อ่านข่าวอื่นๆ

ตรึงเข้ม "เขาใหญ่" ไฟป่าลามประชิด-ห่วงปืนผูกดักสัตว์เพียบ

นักวิจัย มช.ค้นพบ “บุหงาลลิษา” พืชดอกหอมชนิดใหม่ของโลก

กกต.ยันพิมพ์บัตรเลือกตั้ง 57 ล้านใบ-ยังไม่เคาะสีบัตร 2 ใบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง